เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มวัย 25 ปีสองคนในกรุงโรมช่วงปลายยุค 70 ที่ได้พบกันและตกหลุมรักกันอย่างบ้าคลั่ง และต้องพลัดพรากจากกันเป็นเวลา 30 ปี ในขณะที่ขวนขวายใฝ่ฝันจะได้กลับมาพบกัน

นำแสดงโดย Damian Gavino ในบท Andrea และ Andrea Di Luigi รับบทบาทเป็น Pietro และต่อไปนี้คือห้าเหตุผลที่เราอยากชวนคุณลองดูหนังเรื่องนี้

1. เป็นกึ่งอัตชีวประวัติ

นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 14 ของ Ferzan Ozpetek และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของเขากับ Netflix เขาอธิบายว่าบางส่วนของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “อัตชีวประวัติ (เรื่องราวของตัวเขาเอง) แบบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม

2. ฉากหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสวยงามและมีการสอดแทรกสาระความรู้

เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ที่กรุงโรมและถ่ายทำที่นั่นด้วย แค่วิวทิวทัศน์ก็ดีงามและเป็นส่วนสำคัญมากแล้ว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาความรุนแรงที่รัฐกระทำต่อกลุ่ม LGBTQIA+ ด้วย ดังนั้นถึงแม้เรื่องราวมันจะไม่น่ารื่นรมย์ใจเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่า พวกเราผ่านอะไรมาบ้าง

3. นักแสดงมีความโดดเด่น

Gavin และ Di Luigi ไม่เพียงแต่จะดูทรงเสน่ห์และน่าจับตามองเท่านั้น ทั้งสองคนยังมีทักษะการแสดงที่น่าทึ่งในเรื่อง
นี้ ในขณะที่ภาพยนตร์สำรวจความรักและความสูญเสีย การแสดงที่น่าดึงดูดของพวกเขาเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังการเล่าเรื่องทั้งหมด

4. เตือนให้เราอยู่อย่างมีความหวัง

เนื่องจากเรื่องราวครอบคลุมถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ตลอด 30 ปีของจิตวิญญาณอันเดียวดายของสองคนที่คอยตามหากันอยู่เสมอ ถึงแม้เรื่องเล่าสวยงามสร้างแรงบันดาลใจมันจะคอยย้ำเตือนเราไม่ให้สิ้นหวัง โดยเฉพาะในเรื่องของความรักได้ง่ายกว่าในบางครั้ง แต่การเดินทางที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคเพื่อค้นหากันและกัน ก็ทำให้เรานึกถึงคนที่คู่ควรกับการต่อสู้เพื่อให้ได้มาเช่นเดียวกัน

5. แน่นอนว่ามันเซ็กซี่มาก

ขอย้ำอีกครั้งว่านักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ (ทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบชายและหญิง) นั้นดีต่อตาดีต่อใจ และเซ็กซี่มาก มีการเปลือยกายวาบหวิวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวหนังเองก็พูดถึงเรื่องเพศอย่างเป็นอิสระและเปิดเผย แต่มันไม่ได้ มากเกินไป แน่นอน

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?