“เนื่องจากพบว่ามีนักศึกษาผู้มีประจำเดือนมีอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ท้องอืด ท้องผูกหรือท้องเสีย เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวนวิตกกังวลง่าย มีพฤติกรรมแยกตัวจากเพื่อน ครอบครัว หรือคนรอบข้าง ไม่มีสมาธิ ไม่กระตือรือร้น ทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนหรือดำเนินชีวิตได้ตามปกติในช่วงระยะเวลาของการมีประจำเดือน ซึ่งนักศึกษามีความตั้งใจที่จะเข้าศึกษาในชั้นเรียน แต่ไม่สามารถเข้าเรียนในชั้นเรียนได้เนื่องจากมีอาการดังกล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายวิชาการฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการพิจารณาแล้วเห็นความสำคัญและความจำเป็นของนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวข้างต้น จึงขอความร่วมมือคณะ สถาบัน วิทยาลัย แจ้งอาจารย์ผู้สอนพิจารณาอนุญาตให้นักศึกษาผู้มีประจำเดือนที่ได้รับผลกระทบจากอาการดังกล่าวสามารถลาหยุดได้โดยไม่กระทบกับการจัดการเรียนการสอน”
การอนุญาตให้ลาพักช่วงมีประจำเดือนเป็นนโยบายที่ถูกยอมรับหลายที่ทั่วโลก เช่น
ในอินโดนีเซีย รัฐบัญญัติแรงงานมาตรา 13 กำหนดให้ผู้หญิงมีสิทธิลาช่วงมีประจำเดือนได้ 2 วันแยกออกมาจากสิทธิการลาหยุดอื่น ๆ
ไต้หวันกำหนดให้มีวันลาสำหรับผู้มีประจำเดือน 3 วันต่อปี โดยไม่นับรวมสิทธิลาป่วยทั่วไป 30 วัน และยังได้ค่าจ้างหนึ่งหนึ่งหากแรงงานไม่ได้ใช้สิทธิลาเกินกำหนด 3 วันนี้
ในยุโรปก็มีสเปนเริ่มมีการให้ลาพัก 3-5 วันโดยจ่ายค่าแรงเต็ม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023
ส่วนในทวีปแอฟริกา ประเทศแซมเบีย อนุญาตให้แรงงานหญิงลาหยุด 1 วัน โดยถือว่าวันนั้นเป็น “วันแม่” พร้อมทั้งมีบทลงโทษนายจ้างที่ปฏิเสธการลามาตั้งแต่ปี 2015
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?