รู้จัก Megan Rapinoe นักฟุตบอลหญิง ที่ถูกชายแท้ฝ่ายขวาเกลียดมากที่สุดในโลก

เกม EAFC หรือเกมฟุตบอลชื่อเดิมว่า FIFA ได้ทำตัวละครเวอร์ชั่นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จอันเป็นตำนานของ Megan Rapinoe มิดฟิลด์ทีมชาติหญิงสหรัฐและ สโมสร OL Reign แต่ภายหลังที่ตัวละครของเธอออกมากลับมีผู้เล่นจำนวนมากเข้าไปกด downvote หรือแสดงความไม่ชอบ ในเว็ปไซต์ Futbin มากเป็นประวัติการณ์ถึง 66,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่คนที่กดไม่ชอบนั้นจะเป็นกลุ่มคนเพศชายฝ่ายขวา หรือกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่มองว่าเธอเป็นเฟมินิสต์หัวรุนแรง และสร้างความน่ารำคาญ ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขการกดไม่ชอบมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเกม โดยสถิติก่อนหน้านั้นเป็นของ Mason Greenwood นักเตะจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่มีคดีอื้อฉาวเรื่องความรุนแรงทางเพศจนได้รับการกด downvote มากถึง 36,000 ครั้ง

Megan Rapinoe ? คือใคร แฟนฟุตบอลบ้านเราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับชื่อนี้มากนัก แต่เธอเป็นนักฟุตบอลที่โด่งดังมากๆในสหรัฐอเมริกา

Megan Rapinoe เป็นกองกลาง ที่พาทีมชาติหญิงสหรัฐอเมริกาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกหญิงถึงสองสมัย และเหรียญทองโอลิมปิกอีกสมัย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักรณรงค์ผู้ทรงอิทธิพลคนนึงในด้านสิทธิความเท่าเทียมและ เป็นแฟชั่นไอค่อนอีกด้วย

Rapinoe รับใช้ทีมชาติหญิงสหรัฐอเมริกาโดยลงเล่นทั้งหมด 203 นัด นับตั้งแต่การลงสนามนัดแรกเมื่อปี 2006 ทำประตูไป 63 ประตู และแอสซิสต์ไป 73 ลูก โดยติดอยู่ในท็อป 10 ของทั้งสองสถิติสำหรับทีมชาติหญิงสหรัฐอเมริกาตลอดกาล เธอช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2015 และปี 2019 และยังคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงลอนดอนในปี 2012 ช่วงที่พีคที่สุดสำหรับ Rapinoe คือปี 2019 หลังจากที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเธอก็ได้รางวัลบัลลงดอร์หญิง หรือรางวัลผู้เล่นหญิงที่ดีที่สุดในโลก จาก FIFA

ภายหลังจากยิงให้ทีมชาติหญิงสหรัฐฯ 2 ลูกในการพบกับเจ้าภาพฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก Rapinoe ก็ได้แสดงท่าดีใจที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วอินเตอร์เน็ต และการเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเธอที่ทำให้ทั้งโลกจดจำ นั่นคือท่าการยืดแขนทั้งสองข้างและยืดอกอย่างภาคภูมิใจ เป็นสิ่งที่เธอจะสื่อให้ทั้งโลกเห็นว่าเธอกำลังเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จด้านกีฬาและงานรณรงค์ของเธอ

ตลอดชีวิตการค้าแข้งของ Rapinoe เธอเป็นกระบอกเสียงให้กับหลายประเด็นๆในสังคม ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ สิทธิของผู้หญิง ความเท่าเทียมของค่าจ้าง และประเด็นด้าน LGBTQ+ อีกหลายๆประเด็น และการรณรงค์ในประเด็นเหล่านี้ก็มักทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตัวเธอมากมายโดยเฉพาะจากฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยมของอเมริกา

อย่างเช่นในปี 2016 ในระหว่างเพลงชาติของสหรัฐฯขึ้นก่อนเริ่มเกม Rapinoe ก็ได้คุกเข่าลงเพื่อร่วมสื่อสารกับ Colin Kaepernick อดีตควอเตอร์แบ็กในกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่ประท้วงการใช้ความรุนแรงของตำรวจที่เกิดจากการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งสีผิว และเธอก็ยังคุกเข่าลงเรื่อยมาเมื่อมีเพลงชาติขึ้น กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างความไม่พอใจให้หลายคนในประเทศ

Rapinoe ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีของสหรัฐฯในขณะนั้น Donald Trump และประกาศว่าจะไม่ไปทำเนียบขาวหากสหรัฐฯได้แชมป์ฟุตบอลโลก อย่างไรก็ดีในปี 2022 เธอก็ได้เข้าทำเนียบขาวเพื่อไปรับเหรียญแห่งอิสระภาพ ซึ่งเป็นเหรียญเพื่อเป็นเกียรติสูงสุดในฐานะพลเมืองของสหรัฐอเมริกา มอบโดยประธานาธิบดี Joe Biden เพื่อเป็นเกียรติแก่งานรณรงค์ที่เธอทำ

Rapinoe บอกว่าตัวเองเป็น “walking protest” หรือ ‘ตัวประท้วง’ คือไม่ว่าเธอเดินไปที่ไหนก็ให้นึกถึงการประท้วงของเธอ เพราะเธอเป็นนักรณรงค์คนสำคัญในเรื่องค่าแรงที่เป็นธรรมของทีมชาติ โดยเรื่องเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2019 เมื่อทีมชาติหญิงได้ฟ้องร้องสมาคมฟุตบอลของสหรัฐฯ ว่าเลือกปฏิบัติทางเพศ

หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเวลา 3 ปี ในที่สุดในปี 2022 ทีมชาติหญิงและทีมชาติชายของสหรัฐฯ ก็ได้รับค่าจ้างที่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นนัดกระชับมิตร รายการแข่งต่างๆ รวมไปถึงในฟุตบอลโลก

“สิ่งที่ฉันตั้งตอรอมากและภูมิใจกับมันมากๆก็คือว่าความยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้วและคนในเจเนอเรชั่นหน้าก็จะไม่ต้องเผชิญสิ่งที่เราได้เผชิญมาก่อน นั่นคือเรื่องการจ่ายค่าจ้างที่เท่าเทียมกัน” Rapinoe กล่าว

Rapinoe ยังบริจาคและช่วยเหลือกลุ่ม Gay, Lesbian & Straight Education Network (GLSEN) และ คณะกรรมาธิการ โอลิมปิกและพาราลิมปิกของสหรัฐ ในปี 2013 เธอก็เป็นแอมบาสเดอร์ให้กับ Athlete Ally องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายเพื่อขจัดความหวาดกลัวต่อ LGBTQ+ ในแวดวงกีฬา

Rapinoe ประกาศแขวนสตั๊ดกับทีมชาติสหรัฐในวัย 38 ปี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Rapinoe พลาดลูกจุดโทษในการเตะกับสวีเดนทำให้สหรัฐฯตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และในด้านการค้าแข้งกับสโมสร เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Rapinoe ก็ได้แขวนสตั๊ดจบอาชีพค้าแข้งของตัวเองอย่างเป็นทางการกับทีม OL Reign พร้อมอาการบาดเจ็บภายหลังจากลงเล่นได้ไม่ถึง 3 นาทีในเกมสุดท้ายของเธอ

แม้ว่านัดสุดท้ายของเธอ จะไม่ได้เป็นการจบที่สวยหรูสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ได้สร้างชื่อเสียง และความสำเร็จให้กับวงการฟุตบอลหญิงสหรัฐและการรณรงค์เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ อย่างมากมายมหาศาล

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner
Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง