วันที่ 29 พ.ย. 66 เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาษี ได้เดินทางเข้ามาลงสมัครเพื่อแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะมีการเลือกในวันที่ 9 ธันวาคม นี้ โดย ‘เดียร์’ บอกกับผู้สื่อข่าวว่าตนมีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ ฟื้นฟูอุดดมการณ์พรรคฯเพื่อให้เป็นที่พึ่งและความหวังของประชาชนและอยากจะก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ รวมถึงอคติทางเพศ และข้อจำกัดของวัย
เดียร์ วทันยา เริ่มเป็นที่รู้จักจากแวดวงกีฬา และสื่อมวลชน ก่อนมาสู่การเป็นนักการเมือง โดยเธอเริ่มต้นจากการเป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในปี 2559 และเคยเป็นกรรมการบริษัทสื่อในเครือสปริงนิวส์ และฐานเศรษฐกิจ ในปี 2562 เดียร์ได้เป็น ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐแบบบัญชีรายชื่อ และได้ตั้งทีม ส.ส. กลุ่มดาวฤกษ์ สวนมติของพรรครัฐบาลโดยการงดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ศักย์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
‘เดียร์’ ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และเปิดตัวเป็นสมาชิกสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2565 ปัจจุบัน ‘เดียร์’ เป็นประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม.
ย้อนดู วิสัยทัศน์ ‘เดียร์’ เรื่องความหลากหลายทางเพศ
เดียร์ วทันยา เคยประกาศจุดยืนเรื่องเพศ และความหลากหลายทางเพศ เนื่องในวันสตรีสากลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเธอกล่าวว่าเราทุกคนต่างเป็นเหยื่อในระบบปิตาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะถูกคาดหวังในสังคมกำหนดบทบาทตามเพศกำเนิด ตนก็เจอกับอคติทางเพศมาโดยตลอด จนทำให้เธอโหวตสวนมติของรัฐบาล เพื่อรับหลักการของทั้งร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และคู่ชีวิต เพราะมองว่ากฎหมายต้องปรับให้เหมาะสมกับบริบทของสังคมและยุคสมัย และทุกคนคือคนเท่ากัน
“เราทุกคนควรมีสิทธิที่จะได้รัก สร้างครอบครัว ได้เป็นตัวเอง เลือกแนวทางของตัวเอง ได้อย่างมีเกียรติและสมศักดิ์ศรี ภายใต้การรับรองดูแลของกฎหมาย อย่างไม่แบ่งแยก หรือเลือกปฏิบัติ ควรเลิกเอาค่านิยมที่สังคมสร้างขึ้น ความคิดแบบปิตาธิปไตย ความคิดแบบทวิลักษณ์คือระบบสองเพศ มากดทับ ปิดกั้นศักยภาพของเราทุกคน ขอให้เราปลดปล่อยพันธนาการภายใต้กรอบการมองเพียงแค่เพศ อยากให้ลดอคติที่เกิดจากความแตกต่างด้านอื่นด้วย เช่น ความหลากหลายทางเพศ, ความหลากหลายชาติพันธุ์และแรงงานต่างชาติ, ความแตกต่างทางชนชั้นในสังคม, ความแตกต่างเรื่องของวัยวุฒิและคุณวุฒิ, ผู้ป่วย ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ หรือแม้กระทั่ง ความหลากหลายอุดมการณ์ทางการเมือง ทั้งนี้ รัฐต้องทำนโยบายหรือกฎหมายสร้างสังคมที่โอบรับทุกคน ทุกกลุ่ม ลดอคติและการเลือกปฏิบัติได้อย่างชัดเจน เปิดกว้างสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกความแตกต่าง รวมถึงกฎหมายหรือนโยบายที่ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อลดช่องว่างความไม่เท่าเทียมเหล่านี้ ตนเชื่อว่า ‘คนเท่ากัน’ และพรรคประชาธิปัตย์จะสร้าง ‘โอกาสที่ทุกคนเท่ากัน’ ขอให้วันสตรีสากล คือจุดเริ่มต้นของวันเท่าเทียมในทุกมิติ” เดียร์กล่าว
ทั้งนี้หาก ‘เดียร์’ ได้รับเสียงการสนับสนุนในครั้งนี้เธอจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 และจะเป็นหัวหน้าพรรคผู้หญิงคนแรก นับตั้งแต่การก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2511
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?
