พาไปทำความรู้จักกับเจ้าของวลีที่ว่านี้  “Sin Wai Kin” ศิลปิน เพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ต ที่นำเรื่องราวอันโลดโผนจากนิยายSci-Fi มาใช้ในการแสดง ภาพเคลื่อนไหว งานเขียน และศิลปะภาพพิมพ์ เพื่อนำแสดงออกถึงความปรารถนา / การแสดงออกตัวตนอย่างตรงไปตรงมา

Sin มักเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปเรื่อยๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตั้งคำถามถึงการนำเสนอความแปลกใหม่และการกำหนดภาพในอุดมคติผ่านวิชวลสร้างการรับรู้ด้วยเทคโนโลยี  ผลงานของเธอมักจะนำเสนอเรื่องราวแฟนตาซีที่สร้างขึ้นโดยเน้นการเผยถึงสรีระ การเคลื่อนไหว รวมถึงการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าที่ปรากฏให้เห็นทั้งภาพนิ่ง และ วีดีโอภาพเคลื่อนไหว 

เธอเป็นศิลปินได้รับเลือกให้เข้าชิงรางวัล Turner Prize ปี 2022 ปัจจุบันเธอมีนิทรรศการเดี่ยวที่ Fondazione Memmo กรุงโรม โดยมีผลงานวิดีโอล่าสุดชื่อว่า “Dreaming the End” (2023) 

การแสดงและผลงานของ Sin ได้รับการจัดแสดงในสถาบันระหว่างประเทศ รวมถึง Centre d’Art Contemporain Genève, Geneva (2023); Tai Kwun Contemporary, ฮ่องกง (2022); พาราไซต์, ฮ่องกง (2022), ลอสแองเจลิส (2022) เป็นต้น

Sin Wai Kin เธอเปิดเผยถึงที่มาที่ไปของการสร้างตัวละครในเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ตว่า  “ฉันเขียนเรื่องแฟนตาซี ฉันวาดรูป ฉันกำลังสเก็ตช์ตัวละครเควียร์ สิ่งต่างๆ มักจะมาบรรจบกันอย่างช้าๆ จนกระทั่งมันเข้าที่ ทุกผลงานมันเหมือนปริศนาที่ฉันพยายามปะติดปะต่ออยู่บ่อยๆ และต่อเนื่องไม่เพียงแค่ผ่านขั้นตอนการเขียนเท่านั้น แต่ผ่านขั้นตอนการถ่ายทำหรือในกรณีของการแสดง ฉันก็ยังคงตระหนักในการแสดงจริงใจ และสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับผู้ชม”

“ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการสร้างผลงานภาพเคลื่อนไหวสำหรับฉันคือการใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายทำไปจนถึงขั้นตอนหลังการผลิต และการตัดต่อคือจุดที่ฉันเห็นสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นของตัวเอง ในผลงานมักจะเห็นฉันในรูปลักษณ์ของผู้ชายบอยแบนด์  บางครั้งฉันก็อยากแสดงเป็นผู้หญิง บางผลงานฉันก็อยากเป็นแดรกควีนจิกวิกทำตัวแซ่บๆ  วันนึงฉันก็อาจไม่อยากเป็นอะไรเลยแต่เป็นตัวเองในแบบนี้”

เอาเป็นว่าไปทำความรู้จักเธอมากขึ้นจากผลงานที่เรานำมาแนะนำมีดังต่อไปนี้

1. A Dream of Wholeness in Parts (2021)

ถูกถ่ายทำในไทเป   ใช้การเปรียบเทียบจากงานเขียนของ Chuang Tzu เป็นจุดเริ่มต้นจากลัทธิเต๋า จินตนาการถึงประสบการณ์ของประสาทสัมผัสในความฝัน ซึ่งผลงานใหม่นี้ Sin ได้สานต่อละครจีนแบบดั้งเดิมด้วยการแต่งตัวให้ดูมีความเควียร์ ดนตรี และบทกวีร่วมสมัย เพื่อสร้างแนวเพลงและหมวดหมู่ที่แปลกใหม่ในขณะเดียวกันก็ปลูกฝังพื้นที่สำหรับจินตนาการถึงโลกที่แตกต่างและวิถีชีวิตในยุคสมัยใหม่

2. Irreconcilable Differences (2020)

ความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้ แสดงให้เห็นตัวละครที่ไร้สาระและหยิ่งผยองสองตัวที่ประดับประดาด้วยเสื้อผ้าหรูหราและทรงผมที่ไร้ที่ติ พวกเธอพยายามสื่อสารกันโดยใช้ชุดการออกเสียงและการพูดพล่าม แม้ว่าจะไม่สามารถตีความรูปแบบคำพูดของพวกเขาได้ แต่ผู้ชมก็รับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในทันที เนื่องจากความไม่ลงรอยกันนั้นชัดเจนผ่านการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงที่ถือตัวและหยิ่งผยอง อารมณ์อันปั่นป่วนของพวกเขาเปลี่ยนจากความรังเกียจไปสู่ความไม่เชื่ออย่างรวดเร็วและในที่สุดก็กลายเป็นความพ่ายแพ้

3. The Breaking Story (2022) 

เป็นโปรเจ็กต์ได้รับมอบหมายจากมูลนิธิ Sunpride เป็นการติดตั้งวิดีโอ 6 ช่อง โดยแต่ละช่องนำเสนอผู้ประกาศข่าวจากนอกโลกที่รายงานจากจักรวาลคู่ขนาน ตัวละครที่ปรากฏในรายงานคือตัวละครประจำของ Sin ในเรื่อง The Storyteller และ  Change The Storyteller เป็นตัวละครชายคนแรกของ Sin ที่ได้มาจาก Today’s Top Stories (2020) โดยอาศัยบทบาทการเล่าเรื่องอันทรงพลังในสังคมปัจจุบัน ในฐานะเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งของการผลิตสาระความรู้และความจริงของมนุษย์ที่สร้างโลกแห่งอคติทางเพศ และไบนารี่ ในการแสดงนี้เธอได้ทำการแต่งตัวเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองถึง 6 แบบ 6 ตัวละคร 6การแสดงออกทางเพศที่ไม่ซ้ำกันเลยสักคน

รับชมผลงานแบบภาพเคลื่อนไหวได้ที่

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?