งานวิจัยจากอเมริกาชี้ชัด การแต่งงานอย่างเท่าเทียมไม่ได้ทำลายสังคม! 

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มกระบวนการสำคัญ เดินหน้าทำให้การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย โดยมลรัฐ Massachusetts เป็นรัฐแรกที่ออกใบอนุญาตสมรสให้คู่รักเพศเดียวกันในปี 2004 หลังจากนั้น ในปี 2015 ศาลฎีกาสหรัฐฯ ก็ได้ตัดสินให้การแต่งงานเท่าเทียมถูกต้องตามกฎหมายทั่วประเทศ

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มกระบวนการสำคัญ เดินหน้าทำให้การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมาย โดยมลรัฐ Massachusetts เป็นรัฐแรกที่ออกใบอนุญาตสมรสให้คู่รักเพศเดียวกันในปี 2004 หลังจากนั้น ในปี 2015 ศาลฎีกาสหรัฐฯ ก็ได้ตัดสินให้การแต่งงานเท่าเทียมถูกต้องตามกฎหมายทั่วประเทศ

ในขณะนั้นมีคนจำนวนไม่น้อยที่กลัวว่าการแต่งงานเพศเดียวกันจะส่งผลร้ายต่อสถาบันครอบครัวและสังคม แต่ผลการศึกษาล่าสุดจาก University of California, Los Angeles และองค์กรไม่แสวงหากำไร RAND ที่ทบทวนงานวิจัยกว่า 96 ชิ้นในรอบ 20 ปี กลับชี้ให้เห็นว่าความกังวลเหล่านั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ที่น่าสนใจคือ ผลการศึกษากลับพบว่าหลังจากที่การแต่งงานเท่าเทียมถูกกฎหมาย อัตราการแต่งงานโดยรวมกลับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คู่รัก LGBTQ+ ที่เพิ่มขึ้นถึง 10% ในขณะที่คู่รักต่างเพศแบบ cisgender ก็มีอัตราการแต่งงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1-2% ด้วยเช่นกัน

การแต่งงานที่เท่าเทียมยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของคู่รัก LGBTQ+ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายมากกว่า 1,000 ประการที่มาพร้อมกับการแต่งงาน ไปจนถึงผลดีต่อสุขภาพกายและใจ เช่น อัตราการติดเชื้อ HIV/AIDS และซิฟิลิสที่ลดลง รวมถึงความเครียดทางจิตใจที่น้อยกว่าคู่รักเพศเดียวกันที่ไม่ได้แต่งงาน

รายงานนี้ยังชี้ให้เห็นว่า เด็กที่เติบโตขึ้นในครอบครัว LGBTQ+ มีสุขภาพจิต ผลการเรียน และความเป็นอยู่ที่ดีไม่แตกต่างจากเด็กในครอบครัวทั่วไป บางการศึกษาพบด้วยซ้ำว่าเด็กเหล่านี้มีสุขภาพและความสุขดีกว่าเด็กที่โตมากับพ่อแม่ cisgender ต่างเพศเสียอีก การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในหมู่คู่รัก LGBTQ+ ก็มีมากกว่าคู่รักทั่วไปถึง 7 เท่า แสดงให้เห็นถึงความตั้งมั่นตั้งใจที่จะมีครอบครัว

การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ Gallup พบว่า ชาวอเมริกันถึง 71% สนับสนุนการแต่งงานเท่าเทียม ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก โดยปัจจุบันมี 37 ประเทศที่ยอมรับการแต่งงานของคนรักเพศเดียวกันแล้ว และจะมีลิกเตนสไตน์เป็นประเทศที่ 38 ในปี 2025 นี้

แม้จะยังมีเสียงคัดค้านและความพยายามที่จะลิดรอนสิทธิของคู่รัก LGBTQ+ แต่เราทุกคนต่างเห็นกันชัดแล้วว่า สังคมที่เปิดกว้างและเท่าเทียมไม่ได้ทำให้เราอ่อนแอลง หากแต่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นต่างหาก มาร่วมกันสนับสนุนให้ความรักทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการยอมรับจากสังคมโดยเท่าเทียมกันเถิด รวมถึงมารอสนับสนุนรอลุ้นประเทศไทยของเรา รอวันที่การสมรสอย่างเท่าเทียมจะเดินทางมาถึงสักที 

ที่มาข้อมูล 

  • Williams Institute on Sexual Orientation & Gender Identity Law and Public Policy | UCLA Law. Retrieved from Williams Institute
  • Same-Sex Couples Experience Higher Unemployment Rates Throughout an Economic Recovery. Center for American Progress. Retrieved​ (UCLA School of Law)​rican Progress](https://www.americanprogress.org)

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง