ข้อมูลจาก Gay Time Magazine และ LGBT Capital พบว่า กลุ่ม LGBTQIAN+ ทั่วโลกมีกว่า 500 ล้านคน อยู่ในเอเชีย 288 ล้านคน อยู่ในประเทศไทยรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคน และสืบเนื่องจากภายในปีนี้ประเทศไทยได้มีข้อกำหนดใช้ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ที่นับเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คาดการณ์ว่าตลอดเดือน มิ.ย. ที่เป็นเทศกาล Pride Month นอกจากจะปลุกเม็ดเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและทั่วโลก รวมทั้งกลุ่ม LGBTQIAN+ ซึ่งมีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจสีรุ้ง (Rainbow Economy) ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาล
ทางด้านนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยและผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจสีรุ้ง หรือ เรนโบว์ อีโคโนมี (Rainbow economy) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังจากกลุ่ม LGBTQIAN+ มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก และประเทศไทย มีการประเมินว่าประเทศไทยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของกลุ่มนี้เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก ด้วยเม็ดเงินกว่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งมีการขยายตัวต่อเนื่องทุกปี
ทั้งนี้จากการรายงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า กลุ่ม LGBTQIAN+ มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 40% จึงเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีความสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของโลก
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 24 พ.ค. 2024, https://www.nationthailand.com/life/40038227
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?