เทศกาลวัฒนธรรมเควียร์ในกรุงโซลเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2000 โดยในช่วงแรกมีระยะเวลาสองถึงสามวัน และมีผู้เข้าร่วมประมาณ 50 คน แต่เนื่องจากได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เทศกาลนี้จึงขยายระยะเวลาเป็นประมาณสองสัปดาห์ โดยมีกิจกรรมมากมายที่เน้นเรื่องสิทธิและวัฒนธรรมของชาว LGBTQ+ เช่น ขบวนพาเหรด ภาพยนตร์ และบูธกิจกรรมต่างๆ
Yang Sun-woo ประธานจัดงานเทศกาลกล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการสื่อสารกับคนในสังคมว่า LGBTQ+ มีตัวตนอยู่จริงและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้” ถึงแม้ทางการจะไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่หลายแห่งในการจัดงาน แต่เหล่าผู้จัดก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นการดำรงอยู่ของชุมชน LGBTQ+ “เราจะทำมันในทุกที่ที่เราสามารถทำได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการส่งสารว่าเรามีอยู่ทุกที่” Yang กล่าว
ภายในงานเทศกาลมีการจัดกิจกรรมและบูธมากมาย รวมถึงการจัดพิธีอวยพรให้กับคู่รัก Park Hyun Chung วัย 25 ปี ซึ่งเป็นคนรักสองเพศ และ Kim Jarim คนรักทุกเพศวัย 22 ปี เล่าว่า “เราอยากมางานนี้เพื่อแสดงตัวตน บอกว่าเรามีตัวตนจริง เรากำลังจะแต่งงานกันปีหน้า แต่ไม่รู้เลยว่าพ่อแม่จะมางานหรือเปล่า บางครั้งก็เศร้า แต่การได้รับพรในขบวนเควียร์แบบนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ”
ในขณะที่มีการประท้วงจากกลุ่มศาสนาอนุรักษ์นิยมในกรุงโซล โดยมีผู้ประท้วงหลายพันคนถือธงสีฟ้าและป้ายที่มีข้อความเช่น “ไม่ยอมรับการรักร่วมเพศและเทศกาลเควียร์” กลุ่มอนุรักษ์นิยมเหล่านี้ยังคงต่อต้านการผ่านกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติเป็นอย่างหนัก ทำให้ไม่มีการรับรองสิทธิคู่ชีวิตเพศเดียวกันตามกฎหมาย ส่งผลให้คน LGBTQ+ จำนวนมากต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงและต้องออกมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม
ปีที่แล้ว ขบวนพาเหรดมีคนเข้าร่วมราว 50,000 คน ส่วนยอดรวมคนร่วมงานเทศกาลอยู่ที่ 155,000 คน และปีนี้ก็คาดว่ามีผู้ร่วมงานมากขึ้นไปอีก แสดงให้เห็นว่าสังคมเริ่มเปิดกว้างและให้การสนับสนุนมากขึ้น งานเทศกาล Queer Culture ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ชาว LGBTQ+ ที่เกาหลี ได้แสดงความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ และได้ร่วมกันผลักดันให้สังคมตระหนักถึงความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศมากยิ่งขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติและรายละเอียดของเทศกาลวัฒนธรรมเควียร์ในกรุงโซล สามารถดูได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/Seoul_Queer_Culture_Festival และเว็บไซต์ของงาน SQCF https://www.sqcf.org/
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?