แต่อะไรทำให้ Vodafone UK โดดเด่นในเรื่องนี้? ลองมาดูกันว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง:
1. ตั้งเป้าชัดเจน ท้าทาย
Vodafone UK ไม่เพียงแค่พูดลอยๆ แต่พวกเขาตั้งเป้าที่วัดผลได้ นั่นคือ ภายในปี 2573 จะมีผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง 45% ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากในวงการเทคโนโลยีที่มักมีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่
2. สร้างเครือข่ายสนับสนุน
บริษัทมีเครือข่ายความเท่าเทียมทางเพศภายในองค์กร ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หารือปัญหา และหาทางแก้ไขร่วมกัน นี่เป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและรับฟังเสียงของทุกคน
3. นโยบายที่ใส่ใจความต้องการหลากหลาย
Vodafone UK มีนโยบายที่แสดงถึงความเข้าใจในความต้องการที่แตกต่างของพนักงาน เช่น:
– การลาสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงวัยทอง
– การลาเพื่อดูแลผู้ป่วยในครอบครัว
– การให้สิทธิลาเลี้ยงดูบุตรแก่คู่สมรสที่ไม่ได้เป็นคนคลอดบุตร
นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้พนักงานรู้สึกได้รับการสนับสนุน แต่ยังช่วยลดอุปสรรคที่อาจทำให้ผู้หญิงต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับอาชีพ
4. สร้างความตระหนักรู้อย่างต่อเนื่อง
Vodafone UK จัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความตระหนักรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศอย่างสม่ำเสมอ เช่น การจัดงานวันสตรีสากล หรือการเชิญวิทยากรมาพูดคุยเรื่องผู้หญิงในวงการเทคโนโลยี
5. ลดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศ
บริษัทไม่เพียงแค่พูดถึงความเท่าเทียม แต่ยังลงมือทำจริง โดยพยายามลดช่องว่างของค่าจ้างระหว่างเพศ ซึ่งลดลงจาก 16.9% ในปี 2560 เหลือ 9% ในปี 2566
ความพยายามของ Vodafone UK แสดงให้เห็นว่าการสร้างที่ทำงานที่เท่าเทียมไม่ใช่แค่ความฝัน แต่เป็นสิ่งที่ทำได้จริงด้วยความมุ่งมั่นและการลงมือทำอย่างจริงจัง
แม้ว่าจะยังมีหนทางอีกยาวไกลกว่าจะถึงความเท่าเทียมที่แท้จริง แต่ตัวอย่างของ Vodafone UK ก็ทำให้เราเห็นว่า เมื่อองค์กรใหญ่ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง มันสามารถสร้างผลกระทบในวงกว้างได้
ในที่สุดแล้ว การสร้างที่ทำงานที่เท่าเทียมไม่เพียงแต่เป็นเรื่องถูกต้อง แต่ยังเป็นการปลดปล่อยศักยภาพของทุกคนในองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่นวัตกรรมและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอนาคต
ที่มา: https://www.vodafone.co.uk/newscentre/news/the-times-top-50-employers-for-gender-equality-list-2024
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?