แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยหญิง Agnodice ตัดสินใจแต่งกายเป็นผู้ชายเพื่อเข้าเรียนแพทย์ที่เมืองอเล็กซานเดรีย โดยศึกษากับ Herophilus นักกายวิภาคศาสตร์ชื่อดัง หลังจบการศึกษา เธอกลับมาประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เอเธนส์ โดยยังคงปลอมตัวเป็นผู้ชาย
Agnodice ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไข้หญิง เนื่องจากเธอสามารถให้การรักษาได้อย่างละเอียดอ่อนและเข้าใจปัญหาสุขภาพของผู้หญิงเป็นอย่างดี เธอมักเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับคนไข้หญิงที่ลังเลที่จะรับการรักษาจากแพทย์ชาย อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จนี้ทำให้แพทย์ชายหลายคนอิจฉาและสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของเธอ
เมื่อความจริงถูกเปิดเผย Agnodice ถูกนำตัวขึ้นศาลด้วยข้อหากระทำผิดกฎหมาย แต่ด้วยการสนับสนุนจากคนไข้หญิงจำนวนมากที่ออกมาประท้วง ในที่สุดเธอก็ได้รับการยกเว้นโทษ และกฎหมายของเอเธนส์ได้รับการแก้ไขให้ผู้หญิงสามารถศึกษาและประกอบวิชาชีพแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
แม้ว่าข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ Agnodice จะมีจำกัด และนักวิชาการบางคนถกเถียงว่าเธออาจเป็นเพียงตำนานหรือเรื่องเล่าที่ถูกสร้างขึ้น แต่เรื่องราวของเธอก็ยังคงเป็นที่จดจำและได้รับการยกย่องในฐานะผู้บุกเบิกทางการแพทย์และสิทธิสตรีที่สำคัญของโลกโบราณ เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมเป็นธรรม ทั้งในมิติความเท่าเทียมทางเพศและในมิติอื่นๆ รวมถึงบอกเราว่าในทุกยุคสมัย ความเท่าเทียมล้วนมาจากการลุกขึ้นมาขบถและต่อสู้กับ ‘ความถูกต้องอันมีเนื้อหากดทับ’ ของสังคม ณ ตอนนั้น ไม่ใช่การสยบยอม
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?