ความเท่าเทียมทางเพศ VS การฆ่าตัวตาย: มายาคติและความจริงในสังคมเกาหลีใต้

เมื่อไม่นานมานี้ Kim Ki-duck สมาชิกสภาเมืองโซล สร้างความฮือฮาด้วยการกล่าวหาว่าการเพิ่มขึ้นของบทบาทผู้หญิงในสังคมเป็นสาเหตุของอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นในผู้ชายเกาหลีใต้ แต่คำกล่าวอ้างนี้สะท้อนความเป็นจริงหรือเป็นเพียงมายาคติที่อันตราย?

เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตาย 23.6 คนต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ OECD ถึง 2 เท่า โดยอัตราการฆ่าตัวตายในผู้ชายสูงกว่าผู้หญิงถึง 2.4 เท่า นี่เป็นปัญหาที่ร้ายแรงและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ศาสตราจารย์ซง อิน ฮัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตจากมหาวิทยาลัยยอนเซ กล่าวว่า “การอ้างเหตุผลโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอเป็นอันตรายและไม่ฉลาด” เขาเน้นย้ำว่าปัญหาการฆ่าตัวตายมีความซับซ้อนและต้องการการวิเคราะห์อย่างรอบด้าน

ความจริงที่ถูกมองข้าม:

1. ช่องว่างทางเพศยังคงมีอยู่: ผู้หญิงในเกาหลีใต้ยังคงได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชาย 29% โดยเฉลี่ย และมักถูกจ้างงานในตำแหน่งที่ไม่มั่นคง

2. การเมืองยังขาดความหลากหลาย: ผู้หญิงมีตัวแทนในสภาผู้แทนราษฎรเพียง 20% และในสภาท้องถิ่น 29%

3. ทัศนคติทางสังคม: การศึกษาล่าสุดพบว่า 43.3% ของชาวเกาหลีเชื่อว่าสังคมยังให้คุณค่ากับงานบ้านมากกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้หญิง แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่จะยึดถือเป็นค่านิยมส่วนตัวน้อยลง (37%)

4. ความกดดันทางสังคม: ทั้งชายและหญิงต่างเผชิญความกดดันจากค่านิยมดั้งเดิมและการแข่งขันที่สูงในสังคม

ในส่วนของรากเหง้าปัญหา มีทั้ง

– ระบบการศึกษาและการทำงานที่เน้นการแข่งขันสูง

– ค่านิยมความเป็นชายแบบดั้งเดิมที่สร้างแรงกดดัน

– การขาดระบบสนับสนุนทางสุขภาพจิตที่มีประสิทธิภาพ

ในส่วนของความพยายามในการแก้ปัญหา รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ริเริ่มโครงการต่างๆ มาหลายอย่าง เช่น 

1. แผนป้องกันการฆ่าตัวตายแห่งชาติ ที่เน้นการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต

2. นโยบายส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน รวมถึงการเพิ่มสวัสดิการลาคลอด

3. การรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและการลดการตีตรา

เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่า แต่ก็มีความก้าวหน้าในด้านความเท่าเทียมทางเพศมากกว่าหลายประเทศในภูมิภาค

ธนาคารโลกประมาณการว่าการเพิ่มความเท่าเทียมทางเพศในตลาดแรงงานอาจเพิ่ม GDP ของเกาหลีใต้ได้ถึง 10% ภายในปี 2030 ในขณะเดียวกัน การสูญเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายส่งผลกระทบต่อผลิตภาพแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวม

แนวโน้มในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่อง โดยคนรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายจำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง

วัฒนธรรมป๊อปเกาหลีกำลังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติทางสังคม โดยนำเสนอภาพลักษณ์ที่หลากหลายมากขึ้นผ่านซีรีส์ ภาพยนตร์ และเพลง แต่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสังคมในวงกว้างยังต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมาก

การสร้างสังคมที่เท่าเทียมไม่ใช่เรื่องของการแข่งขันระหว่างเพศ แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อสร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน เราต้องมุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยคำนึงถึงปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจที่ซับซ้อน

ท้ายที่สุด การอภิปรายเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและปัญหาสังคมในเกาหลีใต้ควรอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่อคติหรือความเชื่อส่วนบุคคล เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและสร้างสังคมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน การเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เกาหลีใต้สามารถก้าวไปสู่สังคมที่เท่าเทียมและมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้ในอนาคต

ที่มาข้อมูล: BBC

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง