เบื้องลึกโอลิมปิก ทำไมนักกีฬาถึงมี “กิจกรรมร้อนแรง” มากมาย

ใครจะคิดว่าการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิก จะมีเรื่องราวซุกซ่อนที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้การแข่งขันในสนาม วันนี้เรามาเจาะลึกกันว่าทำไมนักกีฬาถึงมี “กิจกรรมสุดฮอต” กันมากมายในหมู่บ้านนักกีฬา

การแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีสปีนี้ (2024) สร้างสถิติใหม่ด้วยการสั่งถุงยางอนามัยมากถึง 300,000 ชิ้น! ซึ่งมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แม้แต่โตเกียว 2020 ที่สั่งไป 70,000 ชิ้นยังต้องสั่งเพิ่มอีก 20,000 ชิ้น เพราะไม่พอใช้ ปารีสเมืองแห่งความรักจึงต้องเตรียมพร้อมเป็นพิเศษ

การแจกถุงยางอนามัยในโอลิมปิกเริ่มขึ้นครั้งแรกในโอลิมปิกโซลปี 1988 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดขอ HIV โดยมีการแจกถุงยางอนามัยจำนวน 8,500 ชิ้น 

ตั้งแต่นั้นมา การแจกถุงยางอนามัยกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในทุกการแข่งขัน โดยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น

– โอลิมปิกบาร์เซโลนา 1992: 90,000 ชิ้น

– โอลิมปิกซิดนีย์ 2000: 90,000 ชิ้น (ต้องสั่งเพิ่มอีก 20,000 ชิ้น)

– โอลิมปิกริโอ 2016: 450,000 ชิ้น ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด (เป็นถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย 350,000 ชิ้น และถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง 100,000 ชิ้น)

แต่ทำไมถึงต้องใช้เยอะขนาดนี้  Susen Tiedtke อดีตนักกระโดดไกลทีมชาติเยอรมัน ผู้เคยลงแข่งโอลิมปิกปี 1992 และ 2000 เผยว่า “เซ็กส์ในโอลิมปิกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” เธออธิบายว่านักกีฬาทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตให้กับการฝึกซ้อม พอแข่งเสร็จก็อยากปลดปล่อยพลังงาน

“นักกีฬาอยู่ในจุดสูงสุดทางร่างกายในโอลิมปิก เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง ก็ต้องการปลดปล่อยพลังงานของตน” Tiedtke กล่าว “หลังจบการแข่งขัน มีปาร์ตี้ต่อเนื่อง มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจะมีเซ็กส์กัน บางครั้งคุณแทบจะนอนไม่หลับเพราะเสียงปาร์ตี้ของคนอื่น”

ไม่ใช่แค่ Tiedtke คนเดียว Matthew Syed อดีตนักปิงปองทีมชาติอังกฤษที่แข่งในปี 1992 และ 2000 ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เขาบอกว่า “ที่บาร์เซโลนานี่ว่าด้วยเซ็กส์มากพอ ๆ กับกีฬา สำหรับพวกเราหลายคนที่เป็นมือใหม่ในโอลิมปิก” และยังเผยว่าตอนแข่งที่บาร์เซโลนาปี 1992 เขามีเซ็กส์มากกว่าช่วงชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดรวมกัน!

แม้จะดูเหมือนเรื่องสนุก แต่ก็มีกฎกติกา Tiedtke บอกว่าการมีเซ็กส์ก่อนแข่งไม่ใช่ความคิดที่ดี แต่หลังแข่งเสร็จ เพื่อนร่วมห้องก็จะเข้าใจถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว

น่าสนใจที่ Tiedtke เองก็ได้พบกับอดีตสามี Ben Greene ระหว่างการแข่งขันที่บาร์เซโลนา ทำให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในโอลิมปิกไม่ได้เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเสมอไป

สำหรับเหตุผลเบื้องหลังการเตรียมการของผู้จัดนั้น…

ผู้จัดงานตระหนักถึงความเป็นจริงของพฤติกรรมทางเพศในหมู่นักกีฬา จึงเน้นการส่งเสริมเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย โดย

– การแจกถุงยางอนามัยไม่เพียงเพื่อสนับสนุนการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แต่ยังเป็นการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) และเอชไอวี/เอดส์

– นอกจากการแจกถุงยางอนามัย ยังมีการจัดตั้งศูนย์ตรวจสุขภาพทางเพศสำหรับนักกีฬา รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการยินยอมและความปลอดภัยทางเพศ

– การเตรียมการนี้สะท้อนแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของนักกีฬา ไม่เพียงแค่ด้านการแข่งขัน แต่ยังรวมถึงสุขภาพทางเพศและจิตใจ

เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนแปลกใจ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ การที่คนหนุ่มสาวที่แข็งแรงที่สุดในโลกมารวมตัวกัน ก็ย่อมมีแรงดึงดูดทางเพศเกิดขึ้นได้

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าใครจะคิดยังไง เราก็ต้องชื่นชมที่ผู้จัดงานให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันอย่างเพียงพอ เพื่อให้นักกีฬาทุกคนได้สนุกอย่างปลอดภัย หลังจากทุ่มเทกับการแข่งขันมาอย่างหนัก ถือเป็นการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของนักกีฬาอย่างรอบด้าน

ที่มาข้อมูล

  1. Slate: A history of condoms in the Olympic Village
  2. POPSUGAR: The History of Condoms at the Olympics
  3. USA Today: Everyone’s obsessed with Olympians’ sex lives. Why?

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง