ในยุคบุกเบิก ศิลปินอย่าง k.d. lang และ Melissa Etheridge ผู้เปิดเผยตัวตนในช่วงทศวรรษ 1990 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้ในช่วงแรกศิลปินเลสเบี้ยนหรือไบเซ็กชวลมักถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่เฉพาะ
Sara Quin จากวง Tegan and Sara เคยกล่าวว่าการเปิดเผยตัวทำให้เสียงและคุณค่าของศิลปินถูกลดทอนเหลือเพียงแค่เรื่องของรสนิยมทางเพศ
ปัจจุบัน ศิลปินเควียร์สามารถสร้างผลงานที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากขึ้น เช่น Billie Eilish, Hayley Kiyoko, King Princess และ Girl in Red ที่นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับความรักระหว่างผู้หญิงอย่างเปิดเผยและด้วยความภาคภูมิใจ โดยไม่ถูกจำกัดว่าเป็นเพียง “เพลงเควียร์”
การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญต่อผู้ฟังเควียร์ โดยเฉพาะเยาวชน ที่ได้เห็นตัวแทนของพวกเขาในสื่อกระแสหลัก ช่วยสร้างความรู้สึกของการยอมรับและการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของสาธารณชนต่อชุมชน LGBTQ+ ในวงกว้าง
สื่อสังคมออนไลน์มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่และสร้างการยอมรับดนตรี Sapphic โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ Instagram ช่วยให้ศิลปินสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้โดยตรง และสร้างชุมชนออนไลน์ที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ ทั้งในระดับสากลและในประเทศไทย เช่น การเลือกปฏิบัติในอุตสาหกรรมดนตรี การต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม และประเด็นเรื่อง “queerbaiting” ที่บางครั้งศิลปินถูกกล่าวหาว่าใช้ภาพลักษณ์เควียร์เพื่อดึงดูดความสนใจโดยไม่จริงใจ
เมื่อเปรียบเทียบกับแนวดนตรีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ เช่น ดนตรีเกย์ในวงการ EDM หรือฮิพฮอพ เราเห็นว่าดนตรี Sapphic มีการพัฒนาที่น่าสนใจ โดยได้รับการยอมรับในวงกว้างเร็วกว่าในบางแง่มุม
ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงของดนตรี Sapphic จากการเป็นเพลงเฉพาะกลุ่มสู่การเป็นส่วนหนึ่งของกระแสหลัก แน่นอนว่าคือความก้าวหน้า แม้ว่าจะยังมีความท้าทายอีกมาก แต่แนวโน้มนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตที่เท่าเทียมและหลากหลายมากขึ้นในวงการดนตรีและสังคมโดยรวม ทั้งในระดับสากลและในประเทศไทย
แล้วคุณล่ะ มีศิลปินหรือเพลง Sapphic ในดวงใจมั้ย แชร์ให้เราฟังบ้างนะ
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?