เราได้รวบรวม 8 ผู้ประกอบการและซีอีโอ LGBTQ+ ที่มีอิทธิพลที่สุดมา เพื่อยืนยันถึงคุณค่าและนวัตกรรมที่พวกเขาได้นำมาสู่โลกธุรกิจ
Tim Cook – ซีอีโอ บริษัท แอปเปิ้ล
หัวเรือใหญ่ของแอปเปิ้ลเป็นผู้นำธุรกิจที่เป็น LGBTQ+ ที่สำคัญที่สุดในโลก ทิม คุก เข้ามาบริหารบริษัทแอปเปิ้ลในปี 2011 ไม่กี่เดือนก่อนที่สตีฟ จอปส์ จะจากโลกนี้ไป
ทิม คุก ประกาศตัวว่าเป็นเกย์ในปี 2014 และเป็นคนที่รณรงค์เรื่องสิทธิของ LGBTQ+ ภายใต้การนำของเขา แอปเปิ้ลยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและทำให้แอปเปิ้ลเป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯรายแรกที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 1 พันล้านเหรียญฯ
Martine Rothblatt – ผู้ก่อตั้ง United Therapeutics และ Sirius XM
มาร์ไทน์ รอธบลาตต์ เป็นนักอนาคตศาสตร์, ผู้ประกอบการ, ทนายความ และนักเขียน เธอเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Sirius XM Radio และ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพอย่าง United Therapeutic รอธบลาตต์ออกมาเปิดเผยว่าตัวเองเป็นบุคคลข้ามเพศในปี 1994 และร่วมรณรงค์สิทธิของบุคคลข้ามเพศมานับแต่นั้นเป็นต้นมา และรอธบลาตต์ก็เป็นซีอีโอที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมชีวภาพในปี 2017
Leanne Pittsford – ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Lesbians Who Tech
ภายหลังจากทราบว่าในวงการเทคโนโลยีมีความเหลื่อมล้ำของผู้หญิงเลสเบี้ยน และนอนไบนารี่ ลีแอน พิตส์ฟอร์ด ก็ได้ก่อตั้ง Lesbian Who Tech ขึ้นในปี 2012 บริษัทนี้เป็นกลุ่มชุมชนที่สร้างการรับรู้และเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการเทคโนโลยี ชุมชนของเธอเติบโตขึ้นจนทำให้มี หญิง LBTQ+ กว่า 70,000 คน และมีพันธมิตรกว่า 100 ประเทศทั่วโลกที่ให้การสนับสนุนทุนการเรียนโค๊ดดิ้งและการเป็นเมนเท่อร์
Peter Arvai – ผู้ร่วมก่อตั้ง Prezi
ผู้ประกอบการชาวสวีเดน ปีเตอร์ อาร์วาอิ ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มการนำเสนอบนคลาวอย่าง Prezi ร่วมกับ Peter Halacsy และ Adam Somlai-Fischer ในปี 2009 เขาเป็นซีอีโอของบริษัทจนกระทั่งลงจากตำแหน่งในปี 2020 แต่ยังคงนั่งในตำแหน่งบริหาร ปีเตอร์ประกาศตัวในปี 2015 ในนิตยสารฟอร์บส์ และร่วมรณรงค์กับชุมชน LGBTQ+ มานับตั้งแต่นั้น
Alicia Garza – ผู้ร่วมก่อตั้ง Black Lives Matter
อลิเซีย การ์ซา เป็นคนที่ก่อตั้งขบวนการเคลื่อนไหว Black Lives Matter หลังจากเหตุการณ์การฆาตรกรรมวัยรุ่นอเมริกัน Trayvon Martin ในปี 2013 นับตั้งแต่นั้นขบวนการเคลื่อนไหวก็พัฒนาไปสู่องค์กรระดับโลกทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ทศวรรษต่อมาขบวนการ BLM นี้ก็ได้ช่วยปูทางให้กับขบวนการเคลื่อนไหวเฟมินิสต์ในปัจจุบัน
นอกจากจะเป็นนักกิจกรรมแล้ว การ์ซายังเป็นนักเขียน นักพูดสาธารณะและเป็นหัวหน้าใน Black Future Lab ซึ่งเป็นสถาบันคลังความรู้ของชุมชุนคนผิวดำที่ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมือง
Joel Simkhai – ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Grindr
โจเอลและสก็อต เลวาเลน ร่วมกันก่อตั้ง Grindr ในปี 2009 ปัจจุบันแอพพลิเคชั่นนี้มีผู้ใช้งานกว่า 11 ล้านคนต่อเดือน และเป็นแพลตฟอร์มเพื่อหาคู่สำหรับชาวเกย์ที่ดังที่สุดในโลก โจเอลออกจาก Grindr ในปี 2018 หลังจากที่บริษัทถูกขาย
หลังจากนั้นเขาก็เปิดตัวแอพฯหาคู่สำหรับเควียร์ที่ชื่อ Motto โดยมีเป้าหมายเพื่อขจัดมลพิษและการเลือกปฎิบัติจากแอพฯก่อนหน้านี้ที่เขาสร้างขึ้น โจเอลกล่วกับสำนักข่าว NBC ว่าสิ่งที่เขาสร้างขึ้นใหม่นี้เป็นโอกาสที่จะ ‘แก้ไข’ ในสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของวัฒนธรรมในแอพฯหาคู่ เช่นที่เขาเคยสร้างมาก่อนหน้านี้
Jenna Lyons – ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ LoveSeen
เจนน่า ลีออน เป็นแฟชั่นดีไซน์ และอดีตผู้อำนวยการ J.Crew. หลังจากที่ลงจากตำแหน่งที่ J.Crew ในปี 2017 ลีออนก็ได้ก่อตั้ง LoveSeen แบรนด์ขนตาปลอมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างการโอบรับสำหรับทุกคน
ลีออนไม่ได้เริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นผู้ประกอบการ LGBTQ+ แต่เธอได้ออกมาเปิดเผยตัวอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักในปี 2011 หลังจากที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์เขียนบทความบอกว่าเธอคบหากับผู้หญิงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่หย่ากับสามี ลีออนกล่าวกับ The Cut ในปี 2021 “ฉันไม่คิดว่าเป็นหน้าที่ฉันที่จะต้องบอกกับใครว่าฉันชอบเพศอะไร”
Suki Sandhu, OBE – ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Audeliss และ Involve
สุกี้ สันธุ เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Audeliss บริษัทจัดหางานในตำแหน่งบริหารสำหรับชาว LGBTQ+ ชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย และผู้หญิง ในปี 2018 สันธุก่อตั้ง INvolve องค์กรสมาชิกสำหรับชาว LGBTQ+ ที่ประกาศรายชื่อบุคคล LGBT+ ต้นแบบและผู้บริหารที่เป็นพันธมิตร และ ผู้นำชาว LGBT+ แห่งอนาคต เขายังเป็นทูตของ Stonewall อีกด้วย
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?
