อันตรายเกินกว่าจะเป็นตัวเอง: ความรุนแรงทางดิจิทัลกับนักกิจกรรมผู้หญิงและ LGBTI ในไทย

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เรามักคิดว่าอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียจะเป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถแสดงออกอย่างอิสระ แต่แท้จริงแล้ว สำหรับผู้หญิงและกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTIQNA+) ในประเทศไทย เทคโนโลยีกลับกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้กดขี่และควบคุมเสียงของพวกเขา

หนังสือ “อันตรายเกินกว่าจะเป็นตัวเอง” โดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนและละเอียดเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงทางดิจิทัลและการปิดปากนักกิจกรรมในไทย หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เพียงแค่สะท้อนความท้าทายที่นักกิจกรรมเหล่านี้ต้องเผชิญ แต่ยังเป็นการเรียกร้องให้สังคมร่วมกันปกป้องสิทธิและความเสมอภาค

อิงข้อมูลจากการสัมภาษณ์นักปกป้องสิทธิฯ 40 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 14 คน และ LGBTI 26 คน โดยเน้นการรวบรวมประสบการณ์จริงที่พวกเขาต้องเผชิญ ทั้งการถูกสอดแนมผ่านสปายแวร์เพกาซัส และการถูกคุกคามในโลกออนไลน์

หนึ่งในตัวอย่างที่น่าตกใจคือการใช้สปายแวร์เพกาซัสซึ่งพัฒนาโดย NSO Group สปายแวร์นี้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในอุปกรณ์ของนักกิจกรรมโดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ทำให้นักกิจกรรมหลายคนรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวของตนเองถูกล่วงละเมิดอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ ยังมีการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อคุกคามนักกิจกรรมด้วยการใช้คำพูดที่แสดงความเกลียดชังและดูหมิ่น เหยียดหยาม การขู่แบล็กเมล หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในที่สาธารณะ (Doxing) ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและทำให้พวกเขาต้องเซ็นเซอร์ตนเอง

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงทางดิจิทัลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ทางจิตใจ แต่ยังส่งผลให้หลายคนต้องยุติบทบาทการเป็นนักกิจกรรมเพราะกลัวว่าข้อมูลส่วนตัวจะถูกนำไปใช้ทำร้าย การโจมตีที่มุ่งเป้าหมายไปยังนักกิจกรรมที่เป็นผู้หญิงและ LGBTI ยังเป็นการส่งเสริมบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ซึ่งทำให้ไม่กล้าที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นหรือเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวทางสังคม

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เสนอแนะหลายประการเพื่อปรับปรุงการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เช่น การปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและการใช้เทคโนโลยี การสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในการรายงานและแก้ไขปัญหาการคุกคามทางดิจิทัล และการสนับสนุนให้นักกิจกรรมสามารถแสดงออกอย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวการถูกล่วงละเมิด

หนังสือ “อันตรายเกินกว่าจะเป็นตัวเอง” เป็นการเปิดเผยถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทย ซึ่งเทคโนโลยีที่ควรเป็นเครื่องมือเพื่อเสรีภาพกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกดขี่ หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงแค่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้ทุกคนร่วมกันปกป้องสิทธิและเสรีภาพของผู้หญิงและ LGBTI เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและปลอดภัยสำหรับทุกคน

ผู้สนใจอ่านรายงานฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้ที่ (ข้อมูลจากเพจ Amnesty International Thailand)

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง