1. Leslie+Lohman Museum of Gay and Lesbian Art (New York, USA)
ก่อตั้งโดย Charles Leslie กับ Fritz Lohman นี่คือพิพิธภัณฑ์แสดงผลลัพธ์ของการต่อสู้ดิ้นรนและการถูกผลักไสให้เป็นอื่นที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ เริ่มต้นจากการเป็นห้องจัดแสดงเล็กในตึกแถวย่านโซโหปี 1969 ก่อนจะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ LGBTQ ชั้นนำในอีกครึ่งศตวรรษต่อมา ที่นี่จัดแสดงงานศิลปะกว่า 30,000 ชิ้นที่สร้างโดยศิลปินมากหน้าหลายตาจากในช่วงเวลา 3 ศตวรรษ หลังจากโยกย้ายและขยับขยายมาอยู่ที่ถนน Wooster ในแมนฮัตตันตอนใต้ในปี 2017 ที่นี่ก็มีทั้งห้องจัดแสดงขนาดใหญ่ ร้านหนังสือ เวทีสัมนาปราศรัย และพื้นที่จัดอีเวนต์สาธารณะที่มีงานน่าสนใจแวะเวียนกันมาจัดมากมาย
2. Schwules Museum (Berlin, Germany)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในฐานะพิพิธภัณฑ์เกย์แห่งแรกในโลก จุดเริ่มต้นของมันเกิดจากนิทรรศการเดี่ยวในพิพิธภัณฑ์เบอร์ลิน ซึ่งทำให้เพื่อนกลุ่มหนึ่งเกิดแรงบันดาลใจ ขยับขยายออกมาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชีวิตและผลงานของ LGBTQ จัดหนักจัดเต็มทุกสเปกตรัม ปัจจุบัน Schwules Museum ตั้งอยู่ในย่าน Tiengarten และได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาบันศิลปะวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลมากที่สุด ในห้องจัดแสดงทั้ง 4 ห้องมีทั้งผลงานภาพและศิลปวัตถุ แถมยังมีเวิร์กชอป คาเฟ่เก๋ ๆ แล้วก็ห้องจัดอีเวนต์ด้วย
3. Andy Warhol Museum (Pittsburgh, USA)
พูดถึงศิลปะและความเควียร์โดยไม่พูดถึง Andy Warhol เลยก็ถือเป็นบาปหนัก จะว่าพิพิธภัณฑ์นี้เป็นดาวของพิตส์เบิร์กเลยก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะมันบรรจุงานป๊อป ๆ เปรี้ยว ๆ ของวอร์ฮอลเอาไว้เป็นหมื่น ในนี้มีทั้งภาพเขียน 900 ชิ้น งานร่างแบบ 2,000 ชิ้น ภาพพิมพ์ 1,000 ชิ้นไม่ซ้ำกัน ประติมากรรม 77 ชิ้น ภาพถ่าย 4,000 ภาพ ตบท้ายด้วยหนังและวีดิโอเทปอีก 4,350 ใส่เต็มแบบจุก ๆ แบบนี้ ใครรักงานเควียร์ งาน pop art ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
4. ONE National Gay & Lesbian Archives (Los Angeles, USA)
จุดประสงค์หลักของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประเด็น LGBTQ ผ่านหลักฐานที่ได้รับการเก็บรักษาอย่างดีจำนวนมาก โดยมีหอสมุดของ University of Southern California จัดสรรพื้นที่และทรัพยากรให้ หอจดหมายเหตุแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 ที่ West Adam Boulevard ภายในมีทั้งหนังสือ ภาพยนตร์ ภาพถ่าย ไฟล์เสียง บันทึกส่วนตัว ผลงานวิชาการ ซึ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเกย์และเลสเบียนคอยให้บริการทั้งนักศึกษาและผู้เข้าชมทั่วไป แถมเขาบอกว่าในส่วนจัดแสดง West Hollywood มีจัดนิทรรศกาลศิลปะและประวัติศาสตร์ที่หาดูที่อื่นไม่ได้ด้วยนะ
5. GLBT Historical Society & Museum (San Francisco, USA)
ที่นี่มีชื่อเรียกเล่น ๆ อีกชื่อว่าเป็น “สมิธโซเนียนเกย์” เพราะมันเก็บสถานที่เก็บรักษาวัตถุทางประวัติศาสตร์ LGBT ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะของที่ซานฟรานซิสโกและแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ หลายต่อหลายชิ้นเอาไว้ด้วยกัน ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่ถนน 18 ย่าน Castro ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นนครหลวงแห่งแห่งเกย์ ของดีของเด็ดประจำที่นี่คือส่วนจัดแสดงที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Harvey Milk ตำนานนักการเมืองเกย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีนิทรรศกาลกราฟิกหมุนเวียนมาจัดกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
6. Stonewall National Museum & Archives (Fort Lauderdale, USA)
การประท้วงสโตนวอลล์คือหนึ่งในการเคลื่อนไหวสำคัญของขบวนการขับเคลื่อนสิทธิ LGBT ในสหรัฐฯ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะมีพิพิธภัณฑ์รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของชุมชนตั้งอยู่ด้วย นอกจากเทศบาลเมืองจะส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับ LGBTQ นานาชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็น Pride Center ประจำรัฐฟลอริดาอีกต่างหาก
ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุแห่งชาติสโตนวอลล์ตั้งอยู่ใน Wilton Manor นอกจากเอกสาร งานศิลปะ บันทึก และข้าวของเกี่ยวกับการประท้วงสโตนวอลล์ปี 1969 จัดแสดงแล้ว ที่นี่ยังมีนิทรรศการ งานฉายหนัง งานอ่านหนังสือและงานระดมทุนจัดตลอดปีด้วย
7. National Gay & Lesbian Sports Hall of Fame (Chicago, USA)
อันนี้แฟนกีฬาต้องชอบ หอเกียรติยศการกีฬาเกย์และเลสเบียนหนึ่งเดียวแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Boystown ชิคาโกซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชน LGBTQ ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ถูกตั้งขึ้นในปี 2013 เพื่อเชิดชูและบันทึกเกียรติประวัติของนักกีฬา LGBTQ ผู้ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า จุดเริ่มต้นของหอเกียรติยศนี้มาจากการที่ Jason Collins นักบาสเกตบอล NBA เปิดเผยตัวต่อสาธารณชนว่าเป้นเกย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการกีฬาสหรัฐฯ นับแต่นั้นมาก็มีรายชื่อต่อแถวเข้าหอเกียรติยศกันอย่างไม่ขาดสาย
8. The ArQuives (Toronto, Canada)
ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายอันก้าวหน้าและเป็นมิตรกับเกย์ของรัฐบาลแคนาดา สถาบันนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลเชิงวัฒนธรรมที่สำคัญและดำเนินการมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่งของประเทศ นอกจากนี้ The ArQuives ยังเป็นแหล่งรวบรวมคอลเลคชั่นประวัติศาสตร์ LGBTQ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยบันทึกเหตุการณ์ งานตีพิมพ์วิชาการ ผลงานศิลปะ สื่อบันทึกเสียง ภาพเคลื่อนไหว และอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เกย์ในแคนาดา คอลเลกชั่นที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือบรรดาธง โปสเตอร์และใบปลิวทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทางการเมืองของ LGBTQ แถมยังมีการจัดทัวร์ จัดแสดงผลงานผ่านทางออนไลน์ด้วย
9. Australia Lesbian & Gay Archives (Melbourne, Australia)
ความเก๋ของหอจดหมายเหตุเลสเบียนและเกย์แห่งออสเตรเลียก็คือ ที่นี่เขาดูแลและบริหารงานกันโดยอาสาสมัครมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี อัดแน่นไปด้วยวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์ LGBTQ ในออสกว่า 150,000 ชิ้น ซึ่งนับย้อนไปได้ถึงตอนก่อตั้งประเทศเลยทีเดียว ที่นี่ขึ้นชื่อมากเรื่องจัดสัมนาวิชาการ การจัดทัวร์ประวัติศาสตร์ และการร่วมมือกันจัดแสดงผลงานกับแกเลอรีอื่น ๆ ทั่วประเทศ รวมไปถึงการจัดงานใหญ่ ๆ อย่าง Sydney Gay & Lesbian Mardi Gras กับ Midsumma Festival นี่อาสาสมัครเขาทำกันเองจริงดิแก เริ่ดนะ
10. IHLIA LGBT Heritage (Amsterdam, Netherland)
สุดท้ายและท้ายสุดไปดูกันที่อัมเตอร์ดัม เมืองแห่งความม่วนจอย เสรีนิยมที่สุดในยุโรป ชื่อเต็มของสถาบันนี้คือ International Homo/Lesbian Information Archives หรือเรียกสั้น ๆ ว่าสถาบันมรดก IHLIA มีจุดเริ่มต้นมาจากส่วนเล็ก ๆ ของหอสมุดสาธารณะที่เติบโตเร็วมากตั้งแต่ปี 1999 จนตอนนี้กลายเป็นแหล่งรวบรวมคอลเลกชั่นทางประวัติศาสตร์ LGBTQ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ประกอบไปด้วยหลักฐานกว่า 113,000 ชิ้น ความเยี่ยวของเขาก็คือบรรดาหลักฐานสิ่งพิมพ์หายากต่าง ๆ เขาเปิดให้ผู้เข้าชมเข้าถึงได้ทั้งหมด ไม่มีหวงเลยแม้แต่น้อย
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?
