เอาเป็นว่าวันนี้เราไม่ได้มาชวนทะเลาะตบตีกับเหล่าชายแท้ หรือตั้งแผงโฆษณาขายครีม หรือบอกให้คุณผู้ชายรีบไปหาครีมมากมายมาประโคมแต่อย่างใด และไม่ใช่เรื่องใหม่ในปัจจุบันที่ผู้ชายหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น ไม่ว่าจะการลุกขึ้นมาปฏิวัติใส่ใจดูแลรูปร่าง ผิวหน้าของตัวเอง บ้างก็มีแฟนสาวคอยจัดสรรสกินแคร์มาให้ เพราะมีผลิตภัณฑ์ดูแลสภาพผิวหน้า ผิวกาย ดูแลความสะอาดของน้องชาย ระงับกลิ่นกาย ไปจนถึงตกแต่งทรงผม ต้องยอมรับว่ามีให้เลือกสรรอย่างหลากหลายกว่าเมื่อก่อนมากกก แต่มีผู้ชายอีกบางกลุ่มที่ยังเลือกที่จะละเลย ไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวหน้าของตัวเอง ไม่แตะต้องสกินแคร์ หรือการดูแลใด ๆ ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อว่ามันจะลดทอนความแมนลง คือมายาคติภาพจำเมื่อผู้ชายทาครีมเป็นภาพลักษณ์มนุษย์เจ้าสำอางถูกจัดอยู่ในชุดคุณค่าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ชายทั่วไป — ซึ่งไม่จริงเลยสักนิด

แต่ก็นั่นแหละ ถึงคุณจะให้เหตุผลว่าอยากปล่อยสภาพผิวให้เป็นไปตามธรรมชาติ (และยถากรรม) แค่ดูแลรักษาความสะอาดก็พอแล้ว แต่อย่าลืมว่าผิวของมนุษย์เรานั้นเริ่มร่วงโรยแล้วตั้งแต่คุณอายุ 20 ปี สามารถเกิดริ้วรอยจากมลภาวะ + แสงแดด  เกิดสิว จากความมันสะสมและส่วนหนึ่งจากการไม่ใส่ใจดูแลทำความสะอาดเท่าที่ควร จะดีมั้ยถ้าคุณมีผิวที่ดีไม่แห้งกร้าน มีสุขภาพที่ดี ดูดีขึ้นในแบบของตัวเอง

เรามาทำความเข้าใจ สกินแคร์ผู้ชาย และ เพศกำเนิดชาย 101 ไปพร้อมๆ กัน ผิวของเพศกำเนิดชาย กับ เพศกำเนิดหญิงมีโครงสร้างที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความหนาของชั้นผิว จำนวนและขนาดของต่อมไขมัน ก็มีไม่เท่ากัน ความเนียน นุ่ม ชุ่มชื่น ค่า pH ความมัน ขนาดของรูขุมขน ก็แตกต่างกัน

เพศชายจะมีผิวที่มันกว่าซึ่งเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เกิดสิวค่อนข้างง่าย แถมยังเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งผิวหนังถึง 20-90% แต่ผิวเพศชายกลับกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวได้ไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นกลไกทางธรรมชาติที่น้ำในผิวของเพศชายจะระเหยออกมา ง่ายต่อการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย ดังนั้นนอกจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เช้า-เย็น แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่เพศชายต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะถ้าขาดความชุ่มชื้นก็ยิ่งทำให้ผิวที่มันอยู่แล้ว มันหนักยิ่งกว่าเดิม พอปล่อยทิ้งหมักหมมก็เกิดสิวได้นั่นเอง สกินแคร์ที่ผลิตออกมาสำหรับเพศชาย จึงมี มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) เป็นส่วนผสมหลักซึ่งช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีและรวดเร็ว

แล้วแบบนี้เพศชายไปใช้สกินแคร์ของเพศหญิงได้ไหม? จริง ๆ แล้ว ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถใช้ครีมบำรุงผิวร่วมกันได้ แต่อาจจะให้ผลลัพธ์ต่อผิวได้ไม่เต็มที่นัก โดยเฉพาะผิวหน้า เนื่องจากชั้นผิวหนังของทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะมีความแตกต่างกันมาก  ผิวหน้าของฝ่ายชายจะมีความหนากว่าฝ่ายหญิง 25% ทำให้มีคอลลาเจนมากกว่า และสามารถผลิตน้ำมันในผิวได้เยอะกว่า รวมไปถึงมีรูขุมขนที่มากกว่า หากใช้สกินแคร์ของผู้หญิงก็อาจทำให้เกิดสิว และมีริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ***หากไม่ใช้สกินแคร์โดยเฉพาะของแต่ละสภาพผิวก็อาจทำให้ผิวหน้าได้รับการดูแลที่ไม่มากพอ 

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เราขอแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวหน้าของผู้ชายเบสิค ๆ สำหรับผู้เริ่มเบื้องต้นดูแลตัวเอง ไม่โทรม ไม่สิว ดูดีไปด้วยกันฮะ (และไม่ได้เป็นความลำบากยากเย็นแต่ประการใด) 

1. ให้ความสำคัญกับการดูแลทำความสะอาดผิวหน้า เช้า-เย็น

เลิกใช้สบู่ก้อนอาบน้ำมาล้างหน้า หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า อ่อนโยนที่มีค่า pHอยู่ที่ 4.7- 5.75 แบบเดียวกับผิวหน้าดีกว่าถ้าไม่อยากให้หน้าแห้งกรัง แล้วผลิตน้ำมันออกมาเยอะกว่าเดิม

2. มีสกินแคร์ที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) ติดไว้สักตัว บำรุงหลังล้างหน้า เช้า-เย็น 

เราอาจเริ่มต้นจากเซรั่ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) กักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า กระชับรูขุมขน หรือ เซรั่มที่มีส่วนผสมของ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ช่วยลดรอยสิว ปรับสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น หรือสะดวกใจจะใช้ครีมตัวที่เข้มข้นเพิ่มอีกก็ไม่ติด แต่การใช้สกินแคร์จำนวนมากๆ ทาทับถมกันไม่ได้เป็นการยืนยันว่าผิวจะดีขึ้น แถมเสี่ยงต่อการอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดความมัน และสิวได้ไม่รู้ตัว 

3.  “จงทาครีมกันแดด” เถอะขอร้อง 

ข้อนี้ท่องจำให้ขึ้นใจเพราะเป็นสิ่งสำคัญม๊วกกก เลือกใช้ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน แต่มี SPF 15 และไม่เกิน SPF 50 จะดีที่สุด ทา 2 ข้อนิ้วมือเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เพราะค่า SPF มากกว่านี้นอกจากมีราคาแพงเอาเรื่อง และไม่ได้การันตีว่าจะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ 100% การไม่ทาครีมกันแดดเลยแล้วไปทำกิจกรรมกลางแดด แล้วผิวไหม้ และง่ายต่อการเกิดฝ้ารวมถึงมะเร็งผิวหนังนั้นบาปมากนะครับจารย์

4.เรารู้ว่านายขี้เกียจแต่ไม่แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภททาได้ทั้งหน้า ทั้งตัวชิ้นเดียวจบ 

เพราะผิวแต่ละส่วนนั้นแตกต่างกัน อาจทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวแห้งตึงได้ง่ายกว่า อ้อ และผิวบริเวณโกนหนวดก็จะเซนซิทีฟกว่าจุดอื่น เราควรจะดูแลตรงนี้เป็นพิเศษ

5. หลับให้พอ ดื่มน้ำเปล่าให้เหมาะสมต่อวัน 

จะทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ  ผิวพรรณชุ่มชื่นได้ไม่แห้งกร้านเหมือนทะเลทราย

6. รับประทานวิตามิน Zinc ควบคู่ไปด้วย

เพื่อช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้ดีขึ้น ปรับสมดุลของสารอนุมูลอิสระสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว และช่วยลดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชัน (Oxidative stress) ช่วยการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ โดยมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเซลล์ใหม่ ซ่อมแซมผมและเล็บที่อ่อนแอให้เจริญเติบโตและแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย

7. หากทั้ง 6 ข้อที่ว่านี้ดูเป็นเรื่องยาก ลำบากใจที่จะต้องทำ เราก็จะบอกว่าฝืนตัวเองสักนิดเถอะ เพราะมันช่วยผิวหน้าของคุณดีขึ้นได้จริง ๆ การจะวัดคุณค่าว่าเป็นผู้ชายที่แมน หรือไม่ มันไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองเลยสักนิด 

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?