Chloe Cole วัย 19 ปี เป็นตัวแทนจาก Do No Harm ได้เล่าประสบการณ์ตัวเองที่เคยแปลงเพศ และต่อมารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจนั้น พร้อมเรียกร้องให้ดิสนีย์สนับสนุนค่ารักษาพยาบาลสำหรับการกลับสู่เพศกำเนิด อย่างไรก็ตาม การศึกษาส่วนใหญ่กลับชี้ว่า คนข้ามเพศที่แปลงเพศไปแล้ว มีเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่รู้สึกเสียใจในภายหลัง และอาจเป็นความรู้สึกชั่วคราว ส่วนการผ่าตัดหน้าอกนั้น 99% พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้
กระนั้น เรื่องการกลับสู่เพศกำเนิดและความเสียใจ ก็ยังถูกนำมาเป็นข้ออ้างของกลุ่มอนุรักษ์นิยมในการผลักดันกฎหมายต่อต้านคนข้ามเพศในหลายรัฐทั่วสหรัฐฯ ซึ่งทำให้คนข้ามเพศหลายคนต้องเดินทางไกลและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อเข้ารับการรักษาที่จำเป็น
นอกจากประเด็นนี้ ข้อเสนอที่โจมตีดิสนีย์ในด้านต่างๆ ทั้งการบริจาคให้พรรคการเมืองบางพรรค การสนับสนุนองค์กร LGBTQ+ และการส่งเสริม “อุดมการณ์ทางเพศสุดโต่ง” ก็ถูกคณะกรรมการบริษัทปฏิเสธไปด้วยเช่นกัน
การยืนหยัดของดิสนีย์ท่ามกลางแรงกดดันครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศและคนข้ามเพศ ซึ่งสวนทางกับกระแสอนุรักษ์นิยมที่ต่อต้านสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างรุนแรงในช่วงหลัง และยังสะท้อนให้เห็นถึงการรับมือกับประเด็นที่อ่อนไหวในฐานะบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อสังคมสูง หากดิสนีย์ยังคงยืนหยัดปกป้องความเท่าเทียมและสิทธิของคนทุกเพศได้อย่างเหมาะสมต่อไป ก็น่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้แก่ชุมชน LGBTQ+ ที่กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในสังคมอเมริกันขณะนี้
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?