ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ศาลฎีกาได้ปฏิเสธที่จะรับรองการสมรสเพศเดียวกันตามกฎหมาย โดยระบุว่าเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะออกกฎหมายในเรื่องนี้ แม้ศาลจะไม่รับรองสิทธิในการสมรส แต่ก็ยอมรับสิทธิของชุมชน LGBTQ+ ที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ และควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ 

นอกจากนี้ ศาลยังปฏิเสธที่จะให้สิทธิในการรับบุตรบุญธรรมแก่คู่รักเพศเดียวกัน โดยยืนยันกฎระเบียบที่กำหนดให้ผู้รับบุตรบุญธรรมต้องเป็นคู่สมรสที่จดทะเบียนและมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงอย่างน้อย 2 ปี 

Negha Shahin นักแสดงข้ามเพศที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งรัฐเกรละคนแรก แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของศาล เธอมองว่าในยุคที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก แต่สังคมกลับยังไม่สามารถยอมรับสิทธิขั้นพื้นฐานของชุมชนเควียร์ได้ Shahin เรียกร้องให้มีการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการสมรส

ในขณะเดียวกัน การที่ประเทศไทยผ่านกฎหมายรับรองการสมรสเพศเดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้ ได้สร้างความหวังให้กับนักเคลื่อนไหวในอินเดีย Shahin มองว่าสิ่งนี้อาจสร้างแรงกดดันให้นักการเมืองอินเดียพิจารณาประเด็นนี้อย่างจริงจังมากขึ้น เพื่อไม่ให้ล้าหลังในแง่ของสิทธิมนุษยชน 

Souvik Saha ผู้ก่อตั้งองค์กรสิทธิ LGBTQ+ ในอินเดีย มองว่าการทบทวนคำตัดสินของศาลฎีกาครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญ และแนวโน้มทั่วโลกที่ยอมรับความเท่าเทียมในการสมรสมากขึ้น อาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของศาลและทัศนคติของสังคมอินเดียในอนาคต 

แม้จะยังมีความท้าทายอีกมาก แต่การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของชุมชน LGBTQ+ ในอินเดียก็ยังคงดำเนินต่อไป โดยหวังว่าสักวันหนึ่ง ความรักและความผูกพันของพวกเขาจะได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมในสังคม 

ที่มาข้อมูล

1. https://www.losangelesblade.com/2024/07/25/indian-supreme-court-continues-to-review-marriage-equality-ruling
2. https://timesofindia.indiatimes.com/readersblog/dopamineffable/same-sex-marriages-in-india-a-complete-overview-53507
3. https://www.pbs.org/newshour/world/indias-supreme-court-declines-to-legalize-same-sex-marriage-saying-its-up-to-parliament
4. Indian Supreme Court continues to review marriage equality ruling (washingtonblade.com)

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?