กฎหมายของโอคลาโฮมาระบุว่า การแข่งขันกีฬาระหว่างชายและหญิงนั้นผิดกฎหมาย และการระบุเพศถูกกำหนดโดยโครโมโซมเท่านั้น ดังนั้น OSAC จึงออกคำเตือนอย่างเป็นทางการถึง All Elite Wrestling (AEW) ต้นสังกัดของ Nyla Rose ว่าอาจมีบทลงโทษและค่าปรับถ้ายังจัดแมตช์ในลักษณะนี้ต่อไป
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนข้ามเพศในโอคลาโฮมา ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในปี 2019 Kevin Stitt ได้ผลักดันกฎหมายที่จำกัดสิทธิของคนข้ามเพศ โดยเฉพาะเยาวชนและนักกีฬา ในปี 2022 เขาลงนามในกฎหมายห้ามนักเรียนข้ามเพศแข่งขันกีฬาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย และห้ามโรงพยาบาลรัฐให้การดูแลสุขภาพที่ตอบสนองต่อเพศวิถีของผู้เยาว์
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการมวยปล้ำ แต่คือสถานการณ์ของคนข้ามเพศที่ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติและการถูกจำกัดสิทธิในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การแข่งขันกีฬา หรือแม้แต่การเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น อย่างที่ Brandan Bulmer โปรโมเตอร์มวยปล้ำรายหนึ่งให้ความเห็นว่า กฎหมายเหล่านี้กำลัง “กีดกัน” นักมวยปล้ำข้ามเพศออกไป เพราะผู้จัดมวยปล้ำอิสระอาจไม่กล้าเสี่ยงกับค่าปรับหรือโทษจำคุกที่จะตามมา
กรณีของ Nyla Rose จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของแมตช์มวยปล้ำ แต่แสดงให้เห็นว่าเรายังต้องทำอีกมากเพื่อให้คนข้ามเพศได้รับการยอมรับและมีโอกาสเท่าเทียม ไม่ใช่แค่บนสังเวียน แต่ในทุกพื้นที่ของชีวิต ตามที่ Tony Khan เจ้าของ AEW กล่าวไว้ “ฉันไม่คิดว่าควรมีการเลือกปฏิบัติต่อนักมวยปล้ำข้ามเพศหรือคนข้ามเพศเลย พวกเขามีสิทธิ์”
กรณีนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวหรือบทเรียนสำหรับวงการมวยปล้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนสังคมที่กำลังต่อสู้เพื่อความเสมอภาคและความเข้าใจของผู้คนที่หลากหลาย มันเตือนใจเราว่า การต่อสู้เพื่อสิทธิของคนข้ามเพศยังคงดำเนินต่อไป ทั้งในและนอกสนาม เราทุกคนจึงมีหน้าที่ต้องผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าคุณจะมีเพศวิถีใด สิ่งสำคัญคือการเปิดใจและยืนหยัดเคียงข้างกัน เหมือนอย่างที่แฟน ๆ ได้ส่งกำลังใจให้ Nyla Rose อย่างล้นหลาม นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอและคนข้ามเพศอีกมากก้าวต่อไปได้ท่ามกลางอุปสรรค
แหล่งที่มา: Them
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?