‘ภาคธุรกิจจะมา Pride เฉพาะตอนเดินขบวนพาเหรดไม่ได้นะ’ Pride in London

Pride in London ได้ออกมาประกาศเตือนบริษัทต่างๆ ว่าหากต้องการเข้าร่วมเดินขบวนในงาน Pride ปีนี้ จะต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนพนักงาน LGBTQ ตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่มาโชว์ตัวเฉพาะในวันงานเท่านั้น

ภายใต้แคมเปญ Pride in the City บริษัทที่ต้องการมีส่วนร่วมในขบวน Pride จะต้องเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์กรตลอดทั้งปี และเข้าร่วมการอบรมในหัวข้อต่างๆ เช่น การสร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานที่เป็นมิตรและครอบคลุมสำหรับพนักงานข้ามเพศและ non-binary รวมถึงการเชื่อมโยงพนักงาน LGBTQ เข้ากับชุมชนเควียร์และองค์กรต่างๆ

นี่ถือเป็นความพยายามที่น่าชื่นชมจาก Pride in London ที่กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ มองเรื่องการสนับสนุน LGBTQ เป็นพันธกิจระยะยาว ไม่ใช่แค่การแสดงท่าทีฉาบฉวยเพียงปีละครั้ง การที่ธุรกิจจะมายืนเคียงข้างชุมชน LGBTQ ได้อย่างน่าเชื่อถือ พวกเขาจำเป็นต้องลงมือทำอะไรที่เป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เพื่อทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกเป็นที่ยอมรับและมีคุณค่า

Pride in London คืองานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในกรุงลอนดอน โดยมีกิจกรรมหลักคือการเดินขบวนอันยิ่งใหญ่ตามท้องถนนในใจกลางเมือง เพื่อเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของกลุ่ม LGBTQ และส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียม

Pride in London ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 แต่รากฐานของเทศกาล Pride ในลอนดอนนั้นย้อนไปถึงปี 1972 โดยเริ่มจากการชุมนุมเรียกร้องสิทธิของกลุ่ม LGBTQ หลังเหตุการณ์จลาจลที่ Stonewall Inn ในนิวยอร์ก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ สมัยใหม่

ปัจจุบัน Pride in London เป็นหนึ่งในเทศกาล Pride ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดึงดูดผู้เข้าร่วมนับล้านคนในแต่ละปี งานนี้ไม่ได้มีแค่การเดินขบวนเท่านั้น แต่ยังมีการจัดคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ และกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆ มากมาย เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรม LGBTQ และสร้างการมีส่วนร่วมจากคนทุกเพศทุกวัย

นอกจากการจัดงาน Pride in London ยังทำหน้าที่เป็นองค์กรสนับสนุนและให้ความรู้แก่ชุมชน LGBTQ ตลอดทั้งปี ผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น Pride in the City ที่ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจเพื่อส่งเสริมความครอบคลุมและความเท่าเทียมในที่ทำงานดังที่กล่าวไปข้างต้น

แน่นอนว่าการเข้าร่วมขบวน Pride ถือเป็นสิ่งที่มีความหมายและสำคัญ เพราะเป็นการแสดงให้สังคมเห็นถึงพลังของการเป็นพันธมิตรและการยืนหยัดร่วมกัน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การที่แต่ละองค์กรจะร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตและทำงานในสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม โดยไม่หวาดกลัวต่อการเลือกปฏิบัติหรือการไม่ให้คุณค่า

โดยรวมแล้ว Pride in London ไม่ได้เป็นแค่เทศกาลประจำปี แต่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมที่ยังคงดำเนินอยู่ และความภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQ ที่ได้รับการยอมรับและเห็นคุณค่ามากขึ้นในสังคมปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม Pride in London ก็ยังคงย้ำเตือนเราเสมอว่า การเฉลิมฉลองเพียงวันเดียวไม่เพียงพอ เราทุกคนต้องร่วมกันสร้างสังคมที่เปิดกว้างและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตลอด 365 วันของทุกๆ ปี เพื่อโลกที่ทุกคนจะได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเองได้โดยไร้ความกลัว

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระแสการตื่นตัวที่ Pride in London ริเริ่มขึ้นนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่ยั่งยืนไปทั่วโลก เมื่อภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับความหลากหลายและความเท่าเทียมอย่างจริงจัง วันที่ทุกคนจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิในที่ทำงาน ก็จะไม่ใช่ความฝันอันไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

ที่มาข้อมูล: CITY A.M.

ขอขอบคุณการจึดประกายประเต็นนี้ จากผู้ใช้ X ชื่อบัญชี @lattapoljir

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner
Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง