เรื่องนี้ยังเป็นข้อถกเถียงใหญ่โต ในประเด็นเรื่องการปิดกั้นและการลิดรอนเสรีภาพทางการศึกษา เมื่อสำนักงานการศึกษาคย็องกีออกประกาศตอบรับเสียงเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์นิยม ให้แต่ละโรงเรียน ‘ปรึกษาหารือ และดำเนินการ’ กับหนังสือที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว
จนเมื่อเดือนนี้เอง มีการออกประกาศให้ส่งรายชื่อหนังสือทั้งหมดที่ถูกเซ็นเซอร์กลับมาให้ทางสำนักการศึกษาตรวจสอบ
ขอบเขตของหนังสือที่ถูกตั้งคำถามนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพศศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพศวิทยา (Gender Studies) และสตรีนิยม (Feminism) ด้วย ซึ่งสร้างความกังวลให้กับครูที่เห็นว่าการกระทำครั้งนี้เท่ากับการเซ็นเซอร์หนังสือที่ไม่ตรงกับแนวคิดอนุรักษ์นิยมออกไปให้หมดนั่นเอง
องค์กรภาคประชาสังคมต่างๆ อย่างสมาคมสตรีโกยางก็ออกมาคัดค้าน มองว่าการขอรายชื่อหนังสือที่ถูกเซ็นเซอร์นั้นเป็นการปิดกั้นเสรีภาพในการเข้าถึงความรู้และการเรียนการสอน ทว่าสำนักงานการศึกษาคย็องกีอ้างว่าไม่เคยบังคับหรือกดดันโรงเรียน เพียงแต่เป็นหนังสือแจ้งเพื่อให้ทำความเข้าใจในประเด็นที่มีความเห็นไม่ตรงกัน
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความคิดแบบก้าวหน้ากับอนุรักษ์นิยมในเกาหลีใต้ ที่ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความพยายามที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและเปิดรับความหลากหลายทางเพศในทศวรรษที่ผ่านมา แต่สังคมที่มีพื้นฐานมาจากขงจื้อ ก็ยังปรากฏแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่อยู่ขั้วตรงข้ามกัน
การจำกัดการเข้าถึงความรู้ไม่ใช่คำตอบของการจัดการกับเนื้อหาที่ ‘ไม่เหมาะสม’ ไม่ว่าจะในที่เกาหลี ที่ไทย หรือไที่ไหน การเปิดพื้นที่และให้การศึกษาอย่างรอบด้านต่างหากที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นพลเมืองที่มีวิจารณญาณ และเข้าใจความหลากหลายทางเพศได้ดีขึ้น หวังว่าทุกสังคมจะหาจุดสมดุลและผ่านพ้นความขัดแย้งไปได้ในที่สุด
ที่มาข้อมูล: The Korea Times
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?