ภาพยนตร์ 9 เรื่องที่ควรชม ถ้าคุณชอบ Red, White & Royal Blue

ถ้าคุณชม Red, White & Royal Blue แล้วถูกใจ ทางเรามีภาพยนตร์อีก 9 เรื่องพร้อมช่องทางการรับชมที่อยากจะมาแนะนำเพิ่มสำหรับใครที่มูฟออนหรือดู RWRB แล้วติดลมและอยากหาหนังที่คล้าย ๆ กันชมต่อ

1. Call Me by Your Name (2017)

Director: Luca Guadagnino

รับชมได้ทาง Netflix

แม้ความขลังจะผันแปรตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Call Me by Your Name เป็นภาพยนตร์ที่ดังที่สุดเรื่องหนึ่งในปี 2017 เล่าเรื่องของเอลิโอ วัย 17 ปี ที่ตกหลุมรักโอลิเวอร์ วัย 24 ปี นักศึกษาฝึกงานของพ่อ ในช่วงปิดเทอมที่บ้านพักตากอากาศในอิตาลี


2. Boys (2014)

Director: Mischa Kamp

Boys หรืออีกชื่อในภาษาดัชต์คือ Jongens เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก เล่าเรื่องราวของ Sieger วัย 15 ปี ที่พบว่าตนเองตกหลุมรัก Marc ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดประเด็นการยอมรับในตัวเองในแง่มุมความขัดแย้งภายในใจผ่านการแสดงและการกำกับได้อย่างยอดเยี่ยม เราจะได้ชมกันว่าความรักนั้นนำพาเราไปในทางที่ดีอย่างไร


3. The Thing About Harry (2020)

Director: Peter Paige

The Thing About Harry มาในความสัมพันธ์แนวศัตรูสู่คู่รัก คล้ายคลึงกับ Red, White & Royal Blue เล่าเรื่องของคู่กัดสมัยมัธยมปลาย Sam และ Harry ที่ถูกมัดมือชกให้ขับรถไปงานหมั้นของเพื่อนในวันวาเลนไทน์ด้วยกัน และเมื่อแซมพบว่า แฮร์รี่ที่เคยเป็นนักกีฬาดาวเด่นสมัยเรียนเปิดตัวแล้ว เขาก็เปิดโอกาสให้กับสำหรับความสัมพันธ์นี้


4. Handsome Devil (2016)

Director: John Butler

ภาพยนตร์ coming of age ที่เล่าความสัมพันธ์ของ Ned เกย์ที่เก็บเนื้อเก็บตัว และ Connor (รับบทโดย Nicholas Galitzine จาก RWRB) นักกีฬารักบี้ดาวเด่นของโรงเรียน พวกเขาดึงดูดเข้าหากันด้วยดนตรี และถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนจะไม่ใช่ความรักโรแมนติกซะทีเดียว แต่เรื่องนี้นำเสนอในประเด็นมิตรภาพและการยอมรับตัวตนซึ่งกันและกัน ว่าความต่างนั้นดึงดูดคนเข้าหากันได้มากขนาดไหน


5. Alex Strangelove (2018)

Director: Craig Johnson

รับชมได้ทาง Netflix

ภาพยนตร์รอมคอมเล่าเรื่องของ Alex Strangelove ที่มีเป้าหมายเป็นการมีอะไรกันครั้งแรกกับแฟนสาว แต่เขาพบว่า Elliott ที่เป็นเกย์สุดฮ็อตทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว หนังจะพาเราไปชมการเติบโตและการค้นหาตัวตนทางเพศของอเล็กซ์


6. Love, Simon (2018)

Director: Greg Berlanti

รับชมได้ทาง Disney+ Hotstar

Simon มีใจให้กับเพื่อนที่รู้จักกันทางออนไลน์ที่ใช้นามแฝงชื่อว่า “Blue” ทั้งเขาและบลูไม่รู้ว่าตัวจริงของอีกฝ่ายคือใคร และในระหว่างที่เขาพยายามตามหาว่าบลูคือใคร เขาก็ต้องตามหาตัวเองไปพร้อม ๆ กันด้วย

เรื่องนี้ได้รับคำชมอย่างล้นหลามในการนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (เช่น เกย์ไม่จำเป็นต้องตลก ไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง ไม่จำเป็นต้องเต้นเป็น ฯลฯ) อีกทั้งยังได้รับความสำเร็จจนถูกสร้างเป็นฉบับซีรีส์ที่ใช้ชื่อว่า Love, Victor สามารถรับชมได้ใน Disney+ Hotstar เช่นกัน


7. Fire Island (2022)

Director: Andrew Ahn

รับชมได้ทาง Disney+ Hotstar

Fire Island เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนเกย์ที่เดินทางข้ามน้ำไปพักผ่อนที่เทศกาลในเกาะ ระหว่างที่ Noah กำลังใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงอยู่นั้น เขาสังเกตว่า Howie เพื่อนสนิทของตัวเองน่าจะใจตรงกันกับ Charlie เห็นอย่างนั้นโนอาห์เลยถือวิสาสะช่วยจับคู่ให้ทั้งสองคน แม้จะมีอุปสรรคเป็น Will เพื่อนสนิทของชาร์ลีที่เหมือนจะทำอะไรขัดหูขัดตาเขาอยู่เสมอแต่ก็ดันได้ใกล้ชิดพัวพันกันทุกที


8. Bros (2022)

Director: Nicholas Stoller

ภาพยนตร์รอมคอมอีกเรื่องจากปี 2022 เล่าความสัมพันธ์ระหว่าง Aaron และ Bobby ในความสัมพันธ์แบบศัตรูสู่คู่รัก และแม้จะติดภาพจำไปบ้าง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่และความบันเทิงที่มาในรูปแบบรอมคอมก็ยังคงน่าติดตามและควรค่าแก่การลองชม


9. Single All the Way (2021)

Director: Michael Mayer

รับชมได้ทาง Netflix

ภาพยนตร์รอมคอมอีกเรื่อง พิเศษด้วยเซ็ตติ้งเทศกาลคริสต์มาส เล่าเรื่องของ Peter ที่ขอให้ Nick เพื่อนสนิทมาช่วยเป็นแฟนหลอก ๆ ในช่วงเทศกาล ด้วยความหวังอยากจะตัดรำคาญครอบครัวที่มักจะจุ้นจ้านกับชีวิตรักของเขา เรื่องวุ่น ๆ อยู่ตรงที่ครอบครัวก็สงสัยในความสัมพันธ์นี้ อีกทั้งนิคก็ค้นพบว่าเขาไม่ได้อยากเป็นแค่แฟนหลอก ๆ ของปีเตอร์


List จาก https://www.out.com/film/red-white-royal-blue-similar-movies#rebelltitem7

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง