ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกันแบบสมผลประโยชน์เบื้องต้น ในจังหวะที่แทบยังไม่รู้จักกันดีด้วยซ้ำ เหตุการณ์ที่ทำให้ชรทูลรู้ว่าสุมัณเป็นหญิงรักหญิง นั้นน่ากลัวมากสำหรับเรา มันคือการโดนคุกคามที่น่ากลัวน่ารังเกียจจนต้องแจ้งตำรวจ ถึงแม้หนังจะไม่ได้ขยายภาพความรุนแรงออกมาชัดขนาดนั้นก็ตาม
แน่นอนว่ามันไม่มีความโรแมนติกฉันชู้สาวใดๆ เกิดขึ้นกับทั้งคู่ ความคอมเมดี้ของเรื่องนี้อยู่ที่ความวายป่วงของการพยายามซ่อนความจริง ความโรแมนติกอาจจะมีอยู่บ้างนิดหน่อยจากชีวิตรักที่ดำเนินไปตามครรลองของทั้งคู่ที่ต่างก็ตามหาคนของตัวเอง ความดราม่านั้นแน่นอนว่ากองอยู่ที่การเป็น LGBT+ ในบ้าน ในครอบครัว ในสังคม ในประเทศชาติที่ยังมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องผิดบาปผิดปกติ
เราชอบมากเป็นพิเศษที่ความสัมพันธ์ระหว่างคู่แต่งงานมันก็ไม่ได้ราบลื่นอะไรขนาดนั้น เหมือนคนที่ไม่ค่อยรู้จักกันต้องมาอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องพ่อแง่แม่งอน เป็นรูมเมทกันมันก็ทะเลาะมันก็เกี่ยงกันได้ ความสัมพันธ์ระหว่างชรทูล กับ สุมัณ ก็เติบโตเหมือนกัน แม้ไม่ใช่ในวิถีโรแมนติกก็ตาม
หนังยาว 2 ชั่วโมงกว่าๆ ตามประสาหนังอินเดีย แต่ดูสนุกดีค่ะ อินเดียที่เค้าเล่าเรื่องเก่งจริงๆ ถ้าจะมีอะไรที่เราหักคะแนนนิดหน่อยน่าจะอยู่ตรงที่ มันไม่มีตัวละครที่ดูชวนรักอยู่ในเรื่องสักเท่าไหร่สำหรับเรา ความรักและคนรักของทั้งคู่ในเรื่องก็ดูมีพฤติกรรมแปร่งๆ น่ารำคาญ (โดยไม่เกี่ยวกับ Gender)
แต่ทั้งนี้ เราเห็นความพยายามชวนสังคม ชวนครอบครัวเปิดประตู เปิดใจ ผ่านหนัง บางจังหวะจงใจมากถึงขนาดใส่ฉากขบวน Pride ลงไปด้วยซ้ำ หินมันหนักนักก็ตะโกนผลักกันโต้ง ๆ แบบนี้แหละ
อยากชวนมาดูมิติครอบครัวในเรื่องนี้ และอยากชวนมาประจักษ์ผ่านเรื่องเล่าไปพร้อมๆ กัน ว่าการสร้างครอบครัวมันหลากหลายได้ และต้องได้หลากหลาย จะในวิถีโรแมนติก วิถีสิทธิ หรือเป็นแค่ทางเลือกเฉย ๆ ก็ได้ ความแตกต่างคือ ปกติ ของมนุษย์ค่ะ
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?