Barbie (2023): บัดนี้… ข้าพเจ้าได้กลายเป็นบาร์บี้

Barbie เปิดเรื่องด้วยการล้อเลียนหนังชั้นครูอย่าง 2001: A Space Odyssey ใน “รุ่งอรุณ” ของวงการของเล่น ขณะที่เด็กผู้ชายมีของเล่นมากมายสารพัดแบบ ไม่ว่าจะหุ่นยนต์ รถยนต์ อาวุธปืน ตุ๊กตาทหาร สิ่งเสริมจินตนาการสารพัดสารเพ ขณะที่ของเล่นของเด็กผู้หญิงมีเพียงตุ๊กตาทารก ชุดน้ำชา ชุดเครื่องครัว การเล่นของพวกเธอให้จินตนาการได้แบบเดียว นั่นคือการเป็นแม่ เป็นเมียทำงานอยู่กับบ้าน จนกระทั่งอารยธรรมเกิดก้าวกระโดด ไม่ใช่โดยแท่งหินโมโนลิธสีดำ แต่เป็นตุ๊กตาหญิงสาวในชุดเล่นน้ำสุดเซ็กซี่นามว่า “บาร์บี้” จากนั้นบาร์บี้แลนด์จึงถือกำเนิด

ไม่มีปัญหาการกดขี่ผู้หญิงในบาร์บี้แลนด์ บาร์บี้เป็นได้ทั้งประธานาธิบดี ผู้พิพากษา ตำรวจ นักเขียน หมอ และทุกอย่างที่คนเราจะนึกฝันได้ บาร์บี้ตัวหลัก (Margot Robbie) ไม่ได้เป็นอะไรเลยเธอก็มีความสุขดีตามประสาสาวสวย กินอิ่ม นอนอุ่น มีปาร์ตี้เก๋ ๆ ทุกคืน และเป็นที่รักใคร่ของทุกคนในทุกวัน แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่งบาร์บี้ เกิดครุ่นคิดถึงความตาย มีชั้นไขมันบนต้นขา และเท้าที่เคยจิกในท่าใส่ส้นสูงก็กลับ “แบน” ทำให้เธอต้องออกมาสู่โลกจริงเพื่อตามหาต้นเหตุที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้

สำหรับผม Barbie เริ่มต้นตรงนี้ ตรงที่บาร์บี้เผชิญหน้ากับโลกจริง โลกที่ผู้หญิงแต่งตัวสวยจะโดนจับจ้อง คนแปลกหน้าร้องแซวกันแบบไม่เกรงใจ ไม่มีใครสนใจสิ่งที่เธอพูดเท่ากับรูปลักษณ์ของเธอ โลกที่ให้บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจตลอดมา กลับกันกับเคน (Ryan Gosling) ที่เคยได้เป็นแค่เคน ได้รับเกียรติทุกอย่างเพราะเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี สิ่งที่เกิดขึ้นในองก์แรกของหนังเปรียบได้ดั่งการตกสวรรค์ของบาร์บี้ ความไม่เรียบของโลกจริงจึงท่วมท้นจนเธอไม่อาจทำอะไรได้นอกจากหลั่งน้ำตาออกมา 

สถานะของบาร์บี้ไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงดิสนีย์ ครั้งหนึ่งพวกเธอเคยเป็นที่นิยม เป็นปรากฏการณ์ใหม่บนโลกที่ผู้หญิงจะมีบทบาทอย่างเต็มที่ในเรื่องราวของตัวเอง ก่อนที่ความหวานชื่นนั้นจะจางไปเพราะคนเริ่มตระหนักกันได้ว่า บทนางเอกมีไว้ให้สำหรับคนสวย คนที่มีชายรูปงามมาตกหลุมรัก คนที่มีกริยาเพียบพร้อม มีความสามารถ มีรูปร่างงดงามตามนิยม ยิ่งพวกเธอขายดีเท่าไร ที่ยืนของคนที่ไม่ได้งดงามตามมาตรฐานนั้นก็จะยิ่งเหลือน้อยลง การที่ซาช่า (Ariana Greenblatt) เด็กหญิงที่เลิกเล่นบาร์บี้ไปแล้ว พูดว่า “เธอถ่วงความก้าวหน้าของขบวนการเฟมินิสต์ไป 50 ปี เธอทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าเกลียดรูปลักษณ์ของตัวเองแค่ไหนตอนได้เห็นเธอ” อาจจะดูใจร้าย แต่คงจะไปแย้งเธอไม่ได้ เมื่อพิจารณาสารพัดสารพันวิธีที่ผู้หญิงต้องใช้เพื่อไขว่คว้าความงามมาสร้างที่ยืนให้ตัวเองในปัจจุบัน 

ขณะเดียวกันการกลับหัวกลับหางโลกปิตาธิปไตยอย่างบาร์บี้แลนด์ก็ไม่ได้ดีในตัวมันเอง เพราะมันกระตุ้นให้ความอยากเป็นคนที่ถูกรักของเคน ซึ่งเคยเป็นได้แค่เคน อยากจะพลิกมันเป็นเคนด้อมเพื่อเอาคืนบาร์บี้ที่ไม่เคยให้ค่าเขาได้ซึ้งแก่ใจ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เคนเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากคนที่อยากจะอยู่ในสายตาของบาร์บี้ การเปลี่ยนบาร์บี้ดรีมเฮาส์เป็นโมโจโดโจคาซ่าเฮาส์ ไม่ได้ช่วยเติมเต็มความแหว่งวิ่นที่เคนรู้สึก เช่นเดียวกับที่บาร์บี้รู้สึกเมื่อเธอตั้งคำถามถึงความหมายการมีอยู่ของตัวเธอเอง 

Barbie เป็นข้อพิสูจน์ว่า Greta Gerwig เป็นคนที่ตีโจทย์งานที่ว่าด้วยเรื่องการค้นหาตัวตนได้อย่างร้ายกาจ หลังจากที่เธอเคยพิสูจน์ตัวเองกับการทำ Little Women (2019) มาแล้ว แม้ว่าครั้งนี้เธอกับผู้ร่วมเขียนบทอย่าง Noah Baumbach จะมุ่งเป้าเล่นงานระบอบปิตาธิปไตยกับภาวะ Toxic masculinity เป็นหลัก แต่แก่นเรื่องการค้นหาความหมายในตัวก็ยังคงแข็งแรงไม่แพ้ผลงานชิ้นก่อน ๆ มันโดดเด่นขึ้นมาเหนือความระเบิดเถิดเทิงของงานโชว์ที่อาจจะพูดได้ว่าราคาแพงและพิถีพิถันเอาการ ทั้งฉากที่กลอเรีย (America Ferrera) พูดถึงความยากลำบากของการเป็นผู้หญิงและฉากบาร์บี้พบพระเจ้า (Rhea Perlman) ก็ลึกซึ้งคมคายเอามาก ๆ ในท้ายที่สุดแล้ว เจตนาของหนังเรื่องนี้คือการกระตุ้นให้คนมองเห็นคุณค่าทั้งในตัวเองและคนอื่น ๆ เห็นความงามในความเป็นไปได้อันไม่มีที่สิ้นสุดของเพื่อนมนุษย์ โดยไม่มีกรอบใดมาบดบังเอาไว้  

แม้ว่ามุกตลกล้อเลียนชายแท้ในเรื่องจะดูตรงไปตรงมาไปสักหน่อย จนรู้สึกว่ามันเรียบง่ายเกินไปสำหรับชื่อเสียงความร้ายของมือเขียนบททั้งสองคน แต่เมื่อได้เห็นอาการอยู่ไม่สุขของบรรดาคุณผู้ชาย ทั้งแบบที่โวยวายว่านี่มันหนังของพวก Woke เป็นการโจมตีผู้ชายโดยตรง และแบบที่ออกอาการเบื่อหน่ายจนเลือกดูแค่ “หน้าสวย ๆ ของ Margot Robbie” ก็ยิ่งเข้าใจว่าตัวหนังทำงานของมันสำเร็จแล้ว การที่มันได้พลิกภาพลักษณ์ของตุ๊กตาฮิตไปพร้อม ๆ แหย่ให้ “เคนด้อม” แสดงอาการสำลักความเป็นชายขึ้นมาถือเป็นความสำเร็จแล้ว หากจะมีเวทีรางวัลใดมองเห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้ จะถือว่าเป็นโบนัสแก่ความทุ่มเทของทีมสร้างกับความใจกว้างของคนออกทุนก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลยแม้แต่น้อย  

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner
Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง