ศิลปินภาพถ่ายคนหนึ่งเดินเข้าไปปีกแซกเลอร์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเดอะเมโทรโพลิแทนพร้อมผู้ร่วมอุดมการณ์หลายสิบชีวิต ทุกคนปาขวดยาแก้ปวดสีส้มลงไปในอ่างน้ำขนาดใหญ่ที่ประดับอยู่ตรงทางเข้าแล้วนอนลงกับพื้น แล้วตะโกนข้อความประท้วง “แซกเลอร์โกหก ผู้คนล้มตาย”

สิ่งที่แนน โกลดินทำ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชมงานศิลปะในเดอะเม็ตคาดหวังว่าจะได้เห็นในพิพิธภัณฑ์แน่นอน

All The Beauty and The Bloodshed เล่าเรื่องราวชีวิตและการต่อสู้ของแนน โกลดิน ศิลปินภาพถ่ายตัวแสบของแท้ที่ใช้งานของตัวเองต่อสู้เพื่อคนชายขอบมาแล้วหลายยุคสมัย รวมไปถึงกรณีล่าสุด ข้อพิพาทกับตระกูลแซกเลอร์ เจ้าของเพอร์ดูฟาร์มา บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์หนึ่งในตัวการวิกฤตโอปิออยด์ (ยาอนุพันธ์ฝิ่นสำหรับระงับอาการปวด) ในสหรัฐฯ ซึ่งชุบตัวด้วยการทุ่มเงินมหาศาลสนับสนุนพิพิธภัณฑ์และสถาบันศิลปะชั้นนำหลายแห่ง 

คอหนังสารคดีน่าจะพอคุ้นกับชื่อลอร่า พอยทราส ผู้กำกับสารคดีสุดระทึกเรื่อง Citizenfour (2014) ซึ่งจับเอาชั่วขณะแห่งการไล่ล่าเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน หลังเปิดโปงโครงการสอดส่องประชาชนสุดฉาวของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้น่าตื่นเต้นไม่แพ้หนังแอ็กชั่นระทึกขวัญเรื่องไหน ๆ ครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมเรื่องราวของนักสู้อีกคน ด้วยท่าทีสงบนิ่งกว่า แต่ก็ปั่นป่วนอยู่ภายในไม่แพ้กัน 

หนังให้น้ำหนักกับความเป็นมาของโกลดินมากเป็นพิเศษ ทั้งความเจ็บปวดที่เธอต้องเผชิญจากการถูกขับไส การค้นพบวิถีแห่งภาพถ่าย ชีวิตสุดโต่งที่เธอใช้ในฐานะคนชายขอบ เส้นทางการต่อสู้ที่มีคุณลักษณะไม่ต่างจากภาพทั้งหลายในคลัง มันมีสีสันเฉพาะตัวที่โดดเด่น แปลกประหลาด และปราศจากท่าทีของการสยบยอม ภาพถ่ายของโกลดินจ้องมองคนดูมากพอ ๆ กับที่คนดูมองเข้าไปในเฟรมภาพเหล่านั้น และหนังก็จับเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่นเช่นนี้มาถ่ายทอดต่อได้อย่างอยู่มือ 

แม้ว่าสุดท้ายแซกเลอร์จะยื่นขอสถานะล้มละลายให้เพอร์ดูฟาร์มาเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกฟ้องกว่า 2,600 คดีไปได้ แต่ผลการต่อสู้ของกลุ่ม PAIN ซึ่งนำโดยโกลดินก็ยังถือว่าห่างไกลจากความสูญเปล่า เมื่อพิจารณาว่าความหวังที่ระบบยุติธรรมจะเอาผิดนายทุนได้สมกับความเสียหายที่พวกเขาก่อช่างริบหรี่เต็มทน แต่พวกเขาก็ยังสามารถกดดันให้สถาบันศิลปะชั้นนำทั่วประเทศปฏิเสธทุนชุบตัวก้อนใหญ่จากบริษัทยา และอำนวยให้เกิดการเยียวยาผู้เสียหายอย่างเป็นขั้นเป็นตอนต่อไป ลำพังการลบ “Sackler Wing” ออกไปจากเดอะเม็ตก็ถือว่ายิ่งใหญ่พอแล้ว สำหรับกลุ่มคนหลักสิบที่ยืนหยัดต่อต้านคนรวยมือเปื้อนเลือดในพื้นที่ของพวกเขาเอง

หากคนอย่างแนน โกลดินไม่เรียกว่าขบถ เราคงพูดได้ไม่เต็มปากว่าโลกใบนี้ยังเหลือคนแบบนั้นอยู่อีก

All the Beauty and the Bloodshed มีให้สตรีมดูได้แล้วทาง Netflix