สิ่งที่ทำให้เรจิน่าเป็นตัวร้ายคลาสสิกโดดเด่นเหนือใคร ไม่ได้มีแค่พฤติกรรมร้ายกาจแบบที่เห็นตั้งแต่ปากซอยก็รู้ว่าร้าย ทีเด็ดของตัวละครนี้มีอยู่ทั้งในคำพูดคำจา แฟชั่น และลูกเล่นทางจิตวิทยา ทำให้เห็นว่าการมีตัวตนอยู่ในสายตาคนอื่นถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับวัยรุ่นอย่างเธอ มันสำคัญมาเสียจนทำให้เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนกับคนไร้ค่าเพื่อยกระดับความเป็นตัวแม่ในโรงเรียน ความแยบคายของ Mean Girl ก็คือ มันสะท้อนภาพทางเลือกอันร้ายกาจนี้ลงบนตัว Cady ผู้เป็น “นางเอก” ของเรื่องด้วยเช่นกัน
และต่อไปนี้ คือข้อมูลที่น่าสนใจของตัวละครเรจิน่า เจ้าแม่พลาสติกแห่งนอร์ธชอร์
- เดิมทีบทนี้เกือบจะตกเป็นของ Lindsay Lohan แต่เธอเลือกที่จะเล่นเป็น “คนดี” เพื่อที่ผู้ชมจะได้ผิดคาดจากลุคสาวแซ่บเดิม ๆ ของเธอ บทจึงตกไปเป็นของ Rachel McAdams เพราะโปรดิวเซอร์เล็งเห็นว่า “มีแต่คนดี ๆ เท่านั้นแหละที่จะเล่นเป็นคนร้าย ๆ แบบนี้ได้”
- ผู้กำกับ Mark Water แนะนำให้แม็กอดัมส์ตีโจทย์ความเกรี้ยวกราดของเริจน่าด้วยการฟังเพลงของ Courtney Love และดูการแสดงความมุ่งร้ายของ Alec Baldwin จากฉากเด็ดในหนังเรื่อง Glengarry Glen Ross และผลลัพธ์ที่ได้คือฉากที่เธอหันมาพูดกับคนดูพร้อมสายตาดุดันว่า “กระโปรงตัวนี้โคตรน่าเกลียด”
- Tina Fey ได้แรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังเรื่องนี้จากหนังสือ self-help สำหรับพ่อแม่ที่มีชื่อว่า Queen Bees & Wannabes: Helping Your Daughter Survive Cliques, Gossip, Boyfriends and Other Realities of Adolescences (ควีนบีและวอนนาบี: การช่วยลูกสาวคุณให้เอาตัวรอดจากกลุ่มก๊วน ข่าวซุบซิบ แฟนหนุ่ม และความเป็นจริงทั้งหลายของการเติบโตเป็นวัยรุ่น) ซึ่งเขียนจากประสบการณ์การลงพื้นที่และทำความเข้าใจวัยรุ่นในโครงการต่อต้านความรุนแรงในรั้วโรงเรียน
- และตัวทีน่าเองนั่นแหละคือ “นังตัวร้าย” ในบทหนังของตัวเอง เธอเคยเปิดเผยตอนให้สัมภาษณ์กับ New York Times เองเลยว่า “พอฉันทบทวนพฤติกรรมของตัวเองสมัยเรียนมัธยมแล้ว ฉันก็ทำตัวไร้แก่นสาร เป็นงูพิษ แล้วก็ทำตัวร้ายแบบไม่มีเหตุผลเลยจริง ๆ”
- หนึ่งในวิชามารของเรจิน่าที่เป็นที่จดจำมากที่สุดคือการ “เสี้ยม” ให้เพื่อนเหม็นหน้ากันเพื่อให้ตัวเองเป็นคนกลางที่มีอำนาจที่สุด ในฉากหนึ่งเธอจงใจใช้การประชุมสาย (สำหรับคนที่เกิดไม่ทัน มันคือการ “คอลกลุ่ม” ในยุคโทรศัพท์บ้านที่จะไม่มีใครรู้ว่ามีใครในสายบ้าง ถ้าไม่พูดออกมา) เพื่อกล่อมให้เคดี้ว่าร้ายเพื่อนอีกคนที่แอบฟังอยู่ ก่อนที่จะแกล้งตัดสายเพื่อทำให้คนอื่น ๆ ตกอยู่ในความโกรธและสับสนว่าทำไมนังนั่นถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้
- เรจิน่ากับเพื่อน ๆ ไม่เคยเรียกตัวเองว่าเป็น “The Plastic” สมญานามนี้มาจากวัสดุของเสื้อผ้าที่เธอใส่ขึ้นแสดงใน Talent Show ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วมันก็ทั้งเก๋และสะท้อนความเย็นชา ปลอมเปลือกของพวกเธอได้ดีเอาการ
- จากผลสำรวจของ Sky Q (แพลตฟอร์มสื่อบันเทิงอังกฤษ) ในปี 2019 แฟนหนังโหวตให้เรจิน่าเป็นตัวละครที่ “ใจร้ายที่สุด” ในบรรดาตัวละครจากหนังไฮสคูล สองในสามของผู้ลงคะแนนให้ความเห็นว่าเธอเป็นตัวละครที่มีความบกพร่อง แต่ก็ยังดูเป็นมนุษย์มาก ๆ อยู่ดี ส่วนประโยคที่แฟน ๆ ชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ก็คือ “On Wednesday, we wear pink.” (ทุกวันพุธ เราจะใส่สีชมพูกันนะจ๊ะ)
- Mariah Carey ชอบหนังเรื่องนี้มากจนเอาไปอ้างอิงในเพลง Obsessed (2009) เธอขึ้นต้นเพลงด้วยประโยคเด็ดของเริจน่าที่ว่า “Why you so obsessed with me?” (“เธอจะคลั่งอะไรฉันขนาดนั้น”) แถมในมิวสิควีดิโอของเพลงนี้ยังมีคนโดนรถบัสชนอีกด้วย
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?