5 สิ่งที่ควรทำเมื่อถูก “ข่มขืนกระทำชำเรา” โดยคำแนะนำจากแพทย์นิติเวช

การถูกข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเหตุการณ์หนึ่งที่จะเกิดขึ้นกับคนเราได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จำเป็นที่จะต้องตั้งสติให้ดี และ “รีบทำ 5 สิ่งนี้” เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเราเองครับ

1. ไปพบแพทย์โดยเร็ว

การรีบไปพบแพทย์ จะทำให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาล ทั้งต่อรูปคดีอาญาและสุขภาพของผู้ถูกกระทำ โดยแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย, ตรวจอวัยวะเพศ บันทึกบาดแผลและร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ต่างๆเพื่อเตรียมทำรายงานให้กับตำรวจต่อไป แพทย์ยังต้องเก็บสิ่งส่งตรวจต่างๆเพื่อตรวจหาหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการถูกกระทำชำเราด้วย หากเรามาพบแพทย์ช้าเกินไปจนทำให้ผลตรวจคลาดเคลื่อน (หรือไม่มาพบเลย) จะนำไปสู่การสูญเสียประโยชน์ทางรูปคดีได้มาก ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชม. หลังเกิดเหตุถูกข่มขืนกระทำชำเรานะครับ

นอกจากนี้ แพทย์ยังสามารถช่วยดูแลในเรื่องของการป้องกันการตั้งครรภ์ และการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่จะพูดถึงในข้อต่อๆไปนี้ด้วย

2. ป้องกันการตั้งครรภ์ (ในกรณีที่ตั้งครรภ์ได้)

น้อยครั้งมากที่ผู้กระทำจะใช้ถุงยางอนามัยในขณะก่อเหตุ ทำให้ผู้ถูกกระทำเพศหญิงมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากผู้ถูกกระทำไปพบแพทย์หลังเกิดเหตุโดยเร็ว แพทย์มักจะดูแลในเรื่องของการป้องกันการตั้งครรภ์ให้ แต่หากไม่สามารถเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์ได้ สามารถที่จะซื้อยาคุมฉุกเฉินทานด้วยตนเองได้ตามร้านขายยาทั่วไป ปัจจุบันยาคุมฉุกเฉินมีแบบทานเม็ดเดียวแล้ว ถือว่าสะดวกสบายและลดปัญหาการทานยาไม่ครบได้มาก โดยควรทานยาคุมฉุกเฉินหลังเกิดเหตุไม่เกิน 72 ชม. เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามหากประจำเดือนขาดหลังเกิดเหตุ หรือมาไม่สม่ำเสมอ ก็ควรที่จะซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ หรือไปพบแพทย์ครับ

3. ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สำคัญ เช่น การติดเชื้อ HIV, โรคซิฟิลิส, โรคตับอักเสบบีและซี และอื่นๆอีกมากมาย แพทย์สามารถตรวจคัดกรองโรคต่างๆเบื้องต้น และจ่ายยาป้องกันโรคให้กับผู้ถูกกระทำได้ แต่เป็นหน้าที่ของผู้ถูกกระทำที่จะต้องรับประทานยาให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้ผลการป้องกันเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะยาป้องกันการติดเชื้อ HIV ที่ต้องกินติดต่อกันเป็นเวลานาน และยังมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้เกิดปัญหาการทานยาไม่ครบได้บ่อยครั้ง

การตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มักจะต้องตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 3 เดือน เพื่อป้องกันการตรวจไม่พบในกรณีที่เชื้ออยู่ในระยะฟักตัว ฉะนั้นจึงควรมาตรวจตามนัดให้ครบถ้วนครับ

4. แจ้งความดำเนินคดี

การข่มขืนกระทำชำเราถือเป็นความผิดทางอาญา ควรที่จะต้องมีการแจ้งความเอาผิดต่อผู้กระทำ เพื่อให้มีการควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ไม่ให้มากระทำซ้ำ หรือไปก่อเหตุกับผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นได้ อย่างไรก็ดีควรแจ้งความดำเนินคดีหลังจากที่ได้ไปพบแพทย์แล้ว เพื่อให้แพทย์สามารถเก็บสิ่งส่งตรวจต่างๆได้อย่างทันท่วงที และให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆแก่ผู้ถูกกระทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ในการแจ้งความดำเนินคดีจะต้องแจ้งกับตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุเท่านั้นครับ

5. รับการช่วยเหลือแบบองค์รวม

เมื่อถูกข่มขืนกระทำชำเรา ผู้ถูกกระทำนอกจากจะต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพกายและทางกฏหมายแล้ว บ่อยครั้งยังเกิดผลกระทบทางจิตใจร่วมด้วย ปัจจุบันรพ.ส่วนใหญ่จะสามารถให้การช่วยเหลือแบบองค์รวม โดยผู้ถูกกระทำจะมีโอกาสได้ปรึกษากับนักจิตวิทยา, นักสังคมสงเคราะห์ ไปจนถึงจิตแพทย์ได้ ดังนั้นหากท่านต้องการความช่วยเหลือในด้านนี้ สามารถที่จะแจ้งต่อแพทย์เจ้าของไข้ได้ทันทีครับ

ทั้งหมดนี้คือ 5 สิ่งที่ควรกระทำเมื่อถูกข่มขืนกระทำชำเรา หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้สามารถรับมือกับเหตุร้ายได้อย่างมีสติครับ

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner

แชร์บทความนี้

Tag

Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง