Watch and Learn: Blue Giant “ไม่ต้องคิดและไม่ต้องหยุด”

Blue Giant
2023, Yuzuru Tachikawa

ความใฝ่ฝันเป็นของประหลาด บางครั้งมันทำให้คนเราลุกขึ้นสู้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย บางครั้งก็ทรมานใจเหลือจะทนเมื่อเมื่อความเป็นโยนบททดสอบสุดโหดหินมาให้ บางคนพบว่าปลายทางของมันช่างแสนว่างเปล่าเมื่อได้ไปถึง ขณะที่หลายคนแค่เพียงได้เห็นความฝันของคนอื่นผลิดอกออกผลก็เป็นสุขใจ สำหรับวัยรุ่นยุคหนึ่ง การมีความฝันถูกยกย่องราวกับเป็นพรอันประเสริฐ เป็นยาชูกำลังใจชั้นดีให้ไล่ตามเป้าหมายอย่างกล้าหาญ แต่ในอีกยุคถัดมาผู้คนต่างก็พูดกันว่าต่อให้ไม่ฝันก็ไม่เป็นอะไรหรอก ชีวิตที่ไม่ต้องแบกน้ำหนักของความฝันก็มีความสุขดีเหมือนกัน

Jass คือชื่อวงดนตรีแจ๊สสามชิ้นของสมาชิกสามคนที่มีความฝันไม่เหมือนกันเลยสักคน ประกอบไปด้วยมิยาโมะ ได เด็กหนุ่มจากเซนไดที่เดินทางเข้าโตเกียวเพื่อเป็นนักดนตรีแจ๊สระดับโลก ความฝันบันดาลกำลังให้เขามีแรงออกมาซ้อมเป่าเทเนอร์แซกโซโฟนริมน้ำอย่างต่อเนื่องกว่าสามปี ถัดมาคือซาวาเบะ ยูกิโนริ มือเปียโนอัจฉริยะที่หัดเล่นดนตรีมาตั้งแต่สี่ขวบ เขาเชื่อว่าการร่วมวงกับคนที่มีลูกบ้าและพรสวรรค์อย่างมิยาโมโตะจะทำให้เขาเข้าใกล้ความฝันที่จะได้แสดงในคลับแจ๊สแนวหน้าของญี่ปุ่นก่อนอายุ 20 ได้ไวยิ่งขึ้น และสุดท้ายคือทามาดะ ชุนจิ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาที่ไม่มีทั้งพรสรรค์และพื้นฐานทางดนตรี แต่การได้ให้จังหวะระหว่างมิยาโมโตะซ้อมเป่าแซกทำให้เขาได้พบกับความงดงามบางอย่างของการไล่ตามความฝัน ทั้งหมดนี้คือตัวละครหลักของ Blue Giant แอนิเมชั่นที่คุณอาจจะเดาได้ไม่ยากเลยว่ามันจะพูดถึงการไล่ตามความฝันและค้นพบความงามระหว่างเส้นทางอันแสนเจ็บปวด

แต่หากเรื่องมันมีทั้งหมดเท่านี้ หนังคงไม่อาจทิ้งตะกอนบางอย่างไว้ในใจของผู้เขียนได้

สิ่งที่ Blue Giant ชูขึ้นมาให้เห็นได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้เพลงแจ๊สจากฝีมือของ Hiromi ศิลปินแจ๊สญี่ปุ่นเลือดใหม่น่าจับตาก็คือการปะทะสังสรรระหว่างคนสามแบบในวง Jass มิยาโมตะที่เคลื่อนเข้าหาฝันอย่างร้อนแรงด้วยสัญชาติญาณ ซาวาเบะที่ใช้ความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ทำตามฝันอย่างมีระเบียบแบบแผน และทามาดะที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากความต้องการะเติบโตและทำสิ่งที่มีความหมาย เราอาจมองได้ว่า Jass คือการรวมตัวกันเพื่อเคลื่อนไปหาจุดหมายสักจุดหนึ่งของวัยรุ่นหลายแบบ แน่นอนว่าในเวลาสองชั่วโมงหนังคงไม่อาจถ่ายทอดทุกความเจ็บปวดและราคาที่ต้องจ่ายระหว่างทางไปสู่จุดหมายนั้นได้ แต่สิ่งที่ถูกเลือกออกมาถ่ายทอดได้อย่างเปี่ยมความหมายนั้นก็ทำงานของมันได้อย่างน่าสนใจโดยเฉพาะความใจกว้างของหัวหอกอย่างมิยาโมโตะ การเรียนรู้สิ่งที่สำคัญพอ ๆ กับความสามารถของซาวาเบะ และการเติบโตอย่างงดงามของทามาดะ รายหลังสุดนี้ค่อนข้างกระทบใจผู้เขียน และน่าจะโดนใจคนอีกมากมายที่ไม่มี “ฝันใหญ่” หรือเคยมี แต่วางทิ้งไว้ตรงไหนสักทีระหว่างรับมือกับความยากลำบากในประคับประคองชีวิตให้รอดมาได้บนดินแดนที่ความฝันมีราคาแพงเป็นพิเศษ

นับตั้งแต่จุดที่ทามาดะถูกจับมาเคาะกระป๋องโซดาให้จังหวะ ผ่านอาการนิ่งค้างและน้ำตาที่หลั่งออกมาด้วยความไม่ได้ดั่งใจในการแสดงทั้งวงเป็นครั้งแรก สู่การที่ค้นพบคุณค่าของความพยายามจากปากคำของผู้ชมที่ได้ดูเขาแสดงมาตั้งแต่ครั้งแรก Blue Giant ได้ให้คำตอบที่สวยงามและอยู่กับความเป็นจริงที่สุดว่าต่อให้ปลายทางจะไม่ส่องสว่างเจิดจ้าดังดาวฤกษ์สีฟ้า ความทุ่มเทจะตอบแทนเราในทางหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าปลายทางจะเป็นเช่นไร สิ่งที่ทำให้ดนตรีของ Jass เร่าร้อนขึ้นมาอย่างน่ามหัศจรรย์นั้นไม่ได้ยืนอยู่บนความสามารถของทั้งสามคนแต่เพียงอย่างเดียว มันคือความกล้าหาญในการไล่ตามความฝันอย่างไม่ลดละ การปลดเปลื้องตัวเองให้เป็นอิสระจากกรอบ และความพยายามที่มีใครสักคนได้มองเห็นมันสุกสว่างขึ้นมา สิ่งเหล่านี้ทำให้จิตวิญญาณของหนังลอยเด่นขึ้นมาเหนือแอนิเมชั่นล้ำ ๆ ระหว่างการแสดงในเรื่อง

แน่นอนว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” เป็นคำกล่าวที่แสนจะเชยและฟุ้งฝันเป็นที่สุด แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไม่ยินดีเมื่อได้เห็นความพยายามของใครสักคนเปล่งประกายออกมา อย่างน้อย แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเรื่องราวของวัยรุ่นเปี่ยมไฟฝันที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงนั้น มอบแรงใจให้กับคนที่ผ่านวัยรุ่นมานานหลายปีได้จริง

 

รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?

Loading spinner
Related Stories

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง