ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นทหารที่สวมเครื่องแบบพร้อมสัญลักษณ์สายรุ้งและยูนิคอร์น พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนรับรองสิทธิการเป็นคู่ชีวิตอย่างเป็นทางการสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน
ข้อเรียกร้องสำคัญประการหนึ่งคือ สิทธิในการตัดสินใจทางการแพทย์แทนคู่รักที่บาดเจ็บในสงคราม และสิทธิในการจัดการศพของคู่รักที่เสียชีวิตในสนามรบ สิทธิเหล่านี้ยังไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมายในยูเครนปัจจุบัน
Dmitriy Pavlov ทหารบกที่เข้าร่วมการชุมนุม กล่าวว่า “เราเป็นคนธรรมดาที่ต่อสู้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ แต่ถูกลิดรอนสิทธิที่คนอื่นมี”
การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างยูเครนและรัสเซีย ซึ่งดำเนินมากว่าสองปีแล้ว นักเคลื่อนไหวมองว่า การปรับปรุงสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ จะช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งมีกฎหมายที่จำกัดสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ก็เผชิญกับการต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในยูเครน โดยเฉพาะจากคริสตจักรออร์โธดอกซ์ยูเครน ซึ่งออกแถลงการณ์ประณามการชุมนุม โดยระบุว่าเป็น “ส่วนหนึ่งของขบวนการทางการเมืองฝ่ายซ้ายสุดโต่ง” และ “มุ่งทำลายสถาบันครอบครัว”
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายตรงข้ามที่จัดการเดินขบวนแยกต่างหาก โดยอ้างว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเคลื่อนไหวในประเด็น LGBTQ+ ในช่วงที่ประเทศกำลังทำสงคราม
แม้จะมีความขัดแย้ง แต่การชุมนุมครั้งนี้ก็ได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยมีตัวแทนจากสถานทูตสหรัฐฯ และสถานทูตยุโรปหลายแห่งเข้าร่วมสังเกตการณ์
การเรียกร้องสิทธิของทหาร LGBTQ+ ในยูเครนสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในประเทศ ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากภัยคุกคามภายนอกและการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนภายในประเทศไปพร้อมกัน
ที่มาข้อมูล: North Wales Pioneer
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?