จากการสำรวจในประเทศไอร์แลนด์ พบว่ากว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นชายรักเพศเดียวกัน (Gay) และชายรักสองเพศ (ฺBisexual) เคยประสบความรุนแรงจากคู่รัก โดยรูปแบบความรุนแรงมีทั้งทางร่างกาย อารมณ์ เพศ และการเงิน นอกจากนี้ยังมีการใช้สถานะสุขภาพ เช่น การติดเชื้อ HIV หรืออัตลักษณ์ทางเพศเป็นเครื่องมือในการทำร้ายด้วย
แม้ว่าในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาที่ครอบคลุมในประเด็นนี้ แต่จากประสบการณ์ของนักกิจกรรมและองค์กรที่ทำงานด้าน LGBTQ+ พบว่าปัญหาความรุนแรงในคู่รักก็เกิดขึ้นในสังคมไทยเช่นกัน โดยมักถูกปกปิดเนื่องจากความอับอายและความกลัวที่จะถูกตีตรา
ปัญหาสำคัญคือการขาดความตระหนักในชุมชน LGBTQ+ และสังคมทั่วไป รวมถึงความลังเลของผู้ถูกกระทำในการขอความช่วยเหลือ ในสังคมไทย แม้จะดูเปิดกว้าง แต่การยอมรับอย่างแท้จริงยังคงเป็นความท้าทาย ทำให้ผู้ประสบปัญหาไม่กล้าเปิดเผยหรือขอความช่วยเหลือ
ผลกระทบของความรุนแรงต่อผู้ประสบปัญหามีความรุนแรงและยาวนาน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ในระยะยาว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตในสังคม
ในประเทศไทย แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว แต่การบังคับใช้ในกรณีคู่รัก LGBTQ+ ยังมีความท้าทาย เนื่องจากความไม่เข้าใจของเจ้าหน้าที่และความลังเลในการแจ้งความของผู้เสียหาย จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และปรับปรุงกระบวนการทางกฎหมายให้เหมาะสมกับบริบทของชุมชน LGBTQ+
อย่างไรก็ตาม มีความพยายามจากหลายภาคส่วนในการแก้ไขปัญหานี้ องค์กรด้าน LGBTQ+ ในประเทศไทย เช่น มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) และ Rainbow Sky Association of Thailand ได้มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงในคู่รัก LGBTQ+ รวมถึงให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบปัญหา
นอกจากนี้ ยังมีสายด่วนให้คำปรึกษาสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ โดยเฉพาะ เช่น สายด่วนของมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน (Thai TGA) ที่ให้บริการปรึกษาปัญหาต่างๆ รวมถึงความรุนแรงในความสัมพันธ์
สิ่งสำคัญคือ สังคมไทยต้องตระหนักว่าความรุนแรงในคู่รักไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในความสัมพันธ์แบบชายหญิง ชุมชน LGBTQ+ ก็เผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน และอาจมีความซับซ้อนมากกว่า การสร้างความเข้าใจ การลดการตีตรา และการพัฒนาบริการที่เข้าถึงได้และเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBTQ+ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหานี้
ในฐานะส่วนหนึ่งของสังคม เราต้องเชื่อว่าความรุนแรงทุกรูปแบบเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในความสัมพันธ์แบบใดก็ตาม การศึกษา การสร้างความตระหนัก และการพัฒนาระบบช่วยเหลือที่เหมาะสมเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่ปลอดภัยและเท่าเทียมสำหรับทุกคน โดยไม่คำนึงถึงรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ
ที่มาข้อมูล:
- https://gcn.ie/gay-men-cork-intimate-partner-violence-report/
- https://bmcpublichealth.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12889-021-11798-2
- https://en.wikipedia.org/wiki/LGBT_rights_in_Thailand
รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับโพสต์นี้?